คลัสเตอร์ตำบลหมื่นไวยลามขยาย4วงติดเชื้อสะสมแล้ว21ราย

30 กรกฎาคม 2564 ที่ริมกำแพงวัดเวฬุวนาราม (โคกไผ่) บ้านโคกไผ่ หมู่ 6 ต.หมื่นไวย อ.เมือง นครราชสีมา ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) เมือง นครราชสีมา โดยนายชนะ  ธรณีทอง นายอำเภอเมืองพร้อมบุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หมื่นไวย ผู้นำชุมชนและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่ประเมินสภาพแวดล้อมและตรวจสอบมาตรการสาธารณสุขบริเวณพื้นที่หน้าซอยรวมพลัง ซึ่งเป็นแหล่งขายอาหาร-เครื่องดื่ม ภายหลังพบคลัสเตอร์โควิดเชื่อมโยงผู้ประกอบการและลูกค้า จากนั้นได้มอบอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้กับกลุ่มเสี่ยงที่กักตัวในบ้านพัก 

 
นายแพทย์วิญญู  จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า การสอบสวนคลัสเตอร์ตำบลหมื่นไวย อ.เมือง ไทม์ไลน์ วันที่ 10 ก.ค.ผู้ป่วยรายที่ 4,593 ชายอายุ 73 ปี ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย มีอาการไข้ ไอ เหนื่อยเวียนหน้า หายใจไม่อิ่ม แต่ไม่ได้ไปรับการตรวจรักษาแต่อย่างใด ได้ซื้อยาพารามากินและนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาต้มดื่ม วันที่ 24 ก.ค. อาการไม่ดีขึ้นลูกสาว ผู้ป่วยรายที่ 4,543 ประกอบอาชีพขายไก่ย่างบริเวณหน้าซอยรวมพลัง พาไปหารักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โพนสูง ต.หมื่นไวย และนำส่งต่อ รพ.มหาราช นครราชสีมา เพื่อตรวจหาเชื้อผลยืนยันติดเชื้อ อาการล่าสุดเป็นผู้ป่วยสีแดง สาเหตุที่มีการเข้าใจเกิดจากการเก็บเศษขวดน้ำปนเปื้อนเชื้อโควิดที่ออกตระเวนเก็บช่วงเวลาเช้าตรู่ อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 

ต่อมาพบบุคคลในครอบครัวประกอบด้วยภรรยา ลูกสาวและหลานติดเชื้อ 3 ราย และเชื้อได้ขยายวง 2 จากลูกสาวแม่ค้าขายไก่ย่าง แกงถุง ทำให้มีการแพร่เชื้อกับแม่ค้าขายอาหารตามสั่งตั้งอยู่ติดกันและหมอนวดแผนโบราณซึ่งให้บริการนวดคลายเส้นให้กับแม่ค้าเป็นประจำ นอกจากนี้ได้ขยายวง 3 ลูกค้าประจำ 3 ราย โดยรายที่ 10 เป็น อสม. ได้นำเชื้อไปติดคนในครอบครัว 3 ราย ขยายเป็นวง 4 ล่าสุดมีบุคคลที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย รวมทั้งสิ้น 21 ราย อย่างไรก็ตามการปิดหมู่บ้าน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ เนื่องจากบ้านโคกไผ่ เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ชานเมือง มีประชากรกว่า 1 พันคน และเป็นเส้นทางเชื่อมต่อหมู่บ้านและตำบลอื่นๆ อาจมีผลกระทบตามมาค่อนข้างมาก ขณะนี้ได้ระดมทีมสอบสวนโรคเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเสี่ยงจำนวนนับร้อยคน

โดย - เกษม  ชนาธินาถ