วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ สน.ดอนเมือง นายมนัส บุญจำนงค์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีหลอกขายล็อกเตอรี่ โดยเจ้าตัวไม่ขอพูดหรือเปิดเผยข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว
นายอานนท์ พินิจกุล ผู้เสียหายได้เปิดเผยว่า รู้จักกับนายมนัสผ่านเพื่อนๆ ที่เป็นกลุ่มเตะบอล ซึ่งเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.63 นายมนัส ได้เข้ามาร่วมในกลุ่มด้วย และมีการชักชวนเพื่อนคนอื่นซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าตนเองได้โควต้าสลากฯมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นโควต้าของนายสมรักษ์ คําสิงห์ เพื่อนนักมวย ตนจึงสนใจและติดต่อซื้อสลากฯ กับนายมนัส และซื้อขายกันมาจำนวน 3 งวด งวดแรกมีการจ่ายเงินและได้สลากฯ จริง แต่งวดที่2 และ3 มีการจ่ายเงินไปรวมกว่า 1,452,000บาท ต่อมานายมนัสอ้างว่าหาสลากฯ ไม่ได้ และไม่ยอมคืนเงินให้ โดยอ้างว่าถูกโกงจนไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ แต่ก็จะพยายามหาเงินมาคืนให้ ก่อนหน้านี้มีบ่ายเบี่ยงคืนเงินหลายครั้ง จนทำให้ตนต้องตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งในตอนนั้นมีการไกล่เกลี่ยกันโดยนายมนัส ยอมที่จะคืนเงินให้ โดยมีการจ่ายเช็คจำนวน 3 ใบ แต่ปรากฎว่าเช็คที่จ่ายออกมาไม่สามารถขึ้นเงินได้
ส่วน นายเอกไท จีระตระกูล ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่าในกรณีของตนเองก็คล้ายกับกรณีนายอานนท์ ซึ่งเหตุที่ตนเชื่อถือและร่วมลงทุนด้วยนั้น มาจากการที่นายมนัสเป็นคนมีชื่อเสียง ประกอบกับได้มีการอ้างถึงบุคคลคนที่มีชื่อเสียงอีกคน และมีการส่งรูปสลากฯ จำนวนหนึ่งมาให้ดูเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือว่ามีสลากฯจริงๆ แต่พอตกลงซื้อขายตนมีการโอนเงินให้นายมนัส จำนวน 632,000บาท ภายหลังเกิดเรื่องนายมนัสได้โอนเงินคืนตนมา 172,000 บาท เพื่อทำให้ตนเชื่อว่าจะได้เงินคืนส่วนที่เหลือ และเพื่อไม่ให้ตนแจ้งความ แต่กลับเบี้ยวจ่ายส่วนที่เหลือ เมื่อทวงถามก็มีการผลัดวันเรื่อยๆ จนทนไม่ไหวต้องเข้าแจ้งความ
ทางด้าน นายสมรักษ์ คําสิงห์ อดีตนักมวยโอลิมปิก และเป็นผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่าขายล็อตเตอรี่ให้กับนายมนัส ยอมรับว่าเคยมีการซื้อ-ขาย ล็อตเตอรี่ กับนายมนัสจริง แต่แค่เพียง 1 งวดเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นนายมนัสได้โอนเงินมาให้ตน 8 ล้านบาท เพื่อซื้อล็อตเตอรี่ แต่ตนมีล็อตเตอรี่ให้แค่ 4 ล้านบาท จึงโอนเงินส่วนต่าง 4 ล้านบาท คืนนายมนัสไป หลังจากนั้นนายมนัสก็หายไปเลยไม่ได้มีการติดต่อซื้อขายกันอีก
จนกระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ทำให้ทางผู้เสียหายโทรมาหาตนเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งตนก็ได้อธิบายไปตามความจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวนายมนัสมีโทรมาปรึกษาบ้าง แต่ตนก็พยายามบอกนายมนัสให้หาเงินมาคืนผู้เสียหาย ส่วนที่ว่านายมนัสมีปัญหาเรื่องเงิน หรือมีหนี้สินอะไรหรือไม่นั้นตนไม่รู้และไม่ขอเกี่ยวข้อง
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฐานฉ้อโกง โดยภายหลังรับทราบข้อหาพนักงานสอบสวนได้ทำการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากนายมนัส เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกด้วยตัวเอง