ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุถึงกรณีที่มีการวิพากวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องของการจัดหาวัคซีนที่ไม่โปร่งใส ส่วนหนึ่งเราก็เข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่รอคอยวัคซีนอยู่ แต่ขอยืนยันว่าการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเรามีกลไกใช้ดำเนินการในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ประกอบด้วย ด้านกฎหมาย โดยมีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารต่างๆ เช่น สถาบันวัคซีนฯ มี พระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 ที่มีความเกี่ยวข้องในเรื่องของการจัดหาวัคซีน สำหรับการพิจารณาจะมีหลายฝ่ายอยู่ในคณะกรรมการในการจัดหาวัคซีน รวมถึงจำนวนเท่าไหร่ด้วย ก็จะต้องผ่านคณะกรรมการเหล่านี้
ขณะเดียวกันยังมีกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนการกระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้ง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อไปเจรจาในเรื่องของการจัดหาว่าแอสตร้าเซนาก้า และ การเข้าร่วมโคแวค รวมถึง คณะกรรมการการจัดหาวัคซีนทางเลือก ที่มี นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค.ในฐานะคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือก
ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำว่า ทางกรมควบคุมโรคได้รับมอบภารกิจมาจากทางกระทรวงสาธารณสุขผ่านมาจากการคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ทำงานด้านการจัดหาวัคซีน ซึ่งเมื่อมีการดำเนินงานทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน มีการจัดทีมในการที่จะเจรจากับทางบริษัท เรื่องของข้อมูล เช่นเรื่องของผลการศึกษา เรื่องของราคา เรื่องของความเหมาะสมในการใช้งานในประเทศไทย การจัดเก็บและการขนส่ง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียง ทุกขั้นตอน เอกสาร มีการตรวจสอบแล้วก็มีการลงนาม เช่นเดียวกับสัญญาสั่งซื้อก็จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ต้องพิจารณเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด
ด้านนพ. นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระบุว่า ได้กราบขออภัยประชาชนทุกคนอย่างยิ่ง ที่ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แม้จะพยายามเต็มที่แล้วในการจัดหาวัคซีน แต่อาจจะได้ในจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ที่ขณะนี้ เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งการระบาดของโรคโควิต 19 เป็นเรื่องที่ไม่เคยประสบพบเจอกันมาก่อน รวมทั้งสถานการณ์การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดหมายได้ล่วงหน้า ทำให้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รวดเร็วและรุนแรงมากกว่าปีที่แล้ว ทำให้การจัดหาวัคซีนไม่ทันต่อสถานการณ์
สำหรับแนวทางการจัดหาวัคซีนโควิดปี 2565 หลักๆสำคัญ คือ เร่งรัดจัดหาวัคซีน โดยมีการพิจารณาเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนในเรื่องของวัคซีนรุ่นที่ 2 ที่จะสามารถครอบคลุมไวรัสที่มีการกลายพันธุ์ โดยให้มีเป้าหมายในการส่งมอบภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 จำเป็นที่จะต้องมีการจองวัคซีนล่วงหน้า
ส่วนเรื่องโคแวค นายแพทย์นคร ระบุว่าเราก็ยังคงอยู่ในโครงการโคแวค แต่ยังไม่มีการลงนามในการทำความร่วมมือการจัดหาวัคซีนร่วมกันผ่านโครงการ โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้มีการเตรียมการ เริ่มเจรจา และได้ส่งข้อความประสานงานไปที่หน่วยงานที่ชื่อว่า กาวี ในการขอเจรจาจะถามว่าร่วมกับโครงการโคแวค โดยมีเป้าหมายในการได้รับวัคซีนในปีหน้าเพิ่มเติมจากการที่ไทยเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน หากได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ก็จะทำเรื่องให้คณะทำงาน คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป