รายงานอ้างอิงการประเมินความเสียหายและความต้องการแบบรวดเร็ว (Rapid Damage and Needs Assessment) ซึ่งระบุว่า ดินแดนปาเลสไตน์ได้รับความเสียหายทางกายภาพสูงสุด 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.23 หมื่นล้านบาท) และความเสียหายทางเศรษฐกิจ 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.16 พันล้านบาท)
สหภาพยุโรปและสหประชาชาติเป็นผู้ร่วมจัดทำรายงานข้างต้น ซึ่งประเมินค่าใช้จ่ายด้านการฟื้นฟูในช่วง 24 เดือนแรกอยู่ที่สูงสุด 485 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.57 หมื่นล้านบาท) พร้อมชี้ว่าภาคสังคมเป็นภาคส่วนที่ได้รับความเสียหายร้ายแรงที่สุด โดยร้อยละ 93 อยู่ในภาคการเคหะ
คันธัน ชันคาร์ ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเขตเวสต์แบงก์และกาซาระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อพิจารณาจากการประเมินนี้ “เราหวังจะระดมความช่วยเหลือของผู้บริจาคเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ในกาซา”
รายงานระบุว่าเดิมทีฉนวนกาซา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคน “มีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้ว หลังเผชิญการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว”
ชันคาร์ระบุว่าก่อนที่อิสราเอลจะโจมตีกาซา ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ จีดีพี (GDP) ของฉนวนกาซาจะเติบโตร้อยละ 2.5 ในปี 2021 แต่หลังเกิดสถานการณ์ดังกล่าว จีดีพีของพื้นที่อาจหดตัวร้อยละ 0.3
รายงานของธนาคารโลกเผยว่า ปัจจุบันอัตราการว่างงานในฉนวนกาซาสูงแตะร้อยละ 50 และมีประชากรในพื้นที่ที่อยู่ใต้เส้นแบ่งความยากจนถึงร้อยละ 60
อิสราเอลและกลุ่มนักรบในฉนวนกาซาซึ่งนำโดยกลุ่มฮามาส (Hamas) บรรลุข้อตกลงการพักรบที่เสนอโดยอียิปต์ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ยุติสถานการณ์ความตึงเครียด 11 วันที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 250 ราย และฝ่ายอิสราเอลเสียชีวิต 13 ราย
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว