เลขาฯสมช. เตรียมปรับยุทธศาสตร์หลังยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง

พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศปก.ศบค. กล่าวถึงการปรับมาตรการ ขณะนี้ยังคงมาตรการหลักและมาตรการเดิมไปก่อน เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมามีประชาชน ที่ทำมาหากินยังเดือดร้อน เนื่องจากใช้มาตรการทางนี้มา 3 เดือนแล้ว ซึ่งส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก และเข้ามายื่นขอความกรุณาจากทางศบค. ขอให้มีการผ่อนคลายมาตรการบ้าง แต่ก็มีการชี้แจงกลับไปว่า มาตรการต่างๆยังคงจำเป็นอยู่ ซึ่งต้องดูทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ที่เดือดร้อน และ มาตรการควบคุมโรค แต่สิ่งที่ศบค.กำลังเตรียมการอยู่คือการลงรายละเอียดและความปราณีต ให้เพิ่มมากขึ้น โดยอาจมีการเพิ่มมาตรการเล็กน้อย แต่ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปมากกว่านี้ ซึ่งหลังจากออกมาตรการมา 15 วัน จะต้องมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง โดยจะประมาณวันที่ 12 กรกฎาคม จะมีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข ในการประเมินมาตรการ ว่ามีประสิทธิผลเพียงใด และจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีการเพิ่มมาตรการ หรือยังคงให้เป็นมาตรฐานเดิมต่อไป โดยจะต้องรับฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก

ส่วนจำเป็นจะต้องปรับยุทธศาสตร์ใหม่หรือไม่หลังครบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น พลเอกณัฐพลระบุว่า ยอมรับว่ามีความจำเป็น ขณะนี้คณะที่ปรึกษาของศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 กรุงเทพฯและปริมณฑลกำลังหารือเรื่องนี้อยู่ เนื่องจากจำเป็นที่จะต้องมีการปรับจากมาตรการเดิมๆ เช่นการเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยขอรอข้อสรุปผลการหารือของบุคลากรทางการแพทย์ก่อนจึงจะทราบรายละเอียดที่แน่ชัด ตนไม่ขอพูดไปก่อนเพราะจะเป็นการเข้าร่วมการแพทย์และสาธารณสุข

ส่วนสถานการณ์เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ขณะนี้นั้น พลเอกณัฐพลระบุว่า เช่นเดียวกับที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรคได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ขณะนี้ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ยังมีเพียงพอ สถานการณ์ยังคงอยู่ในระดับนี้ เพราะฉะนั้น ศบค.ขอความร่วมมือประชาชน แต่ไม่ใช่เป็นการโทษประชาชน แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้น ต้องเกิดจากความร่วมมือ 3 ส่วน คือภาครัฐต้องจริงจัง ผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือ และประชาชนต้องดำรงเรื่องการป้องกันโรคทุกคน ก็จะทำให้สามารถผ่านไปได้

ขณะที่การจัดหาวัคซีนที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขพยายามจัดหาวัคซีนอยู่ แต่ยอมรับว่าไม่สามารถเลือกชนิดได้ และไม่สามารถเร่งกำหนดการส่งได้ เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้วัคซีนที่สามารถหามาได้และวัคซีนที่มีอยู่ ซึ่งตนคิดว่าทุกคนคงคิดเหมือนกันหมด ถ้าเลือกได้คงอยากเลือกวัคซีนที่ประชาชนต้องการ แต่ในเมื่อบริบทออกมาอย่างนี้ ตนต้องขออภัยประชาชนที่ไม่สามารถหาวัคซีนได้ตามที่ประชาชนต้องการ และขณะนี้ก็พยายามอยู่วัคซีนโมเดอร์นาและไฟเซอร์ หน่วยงานก็พยายามเร่งรัดอยู่ แต่เมื่อวัคซีนทั้ง 2 ชนิดนี้ ยังไม่มาวัคซีนที่มีอยู่ก็เป็นวัคซีนที่น่าจะเหมาะสมกับสภาพเวลาขณะนี้

ส่วนจะมีการเดินหน้าฉีดวัคซีนซิโนแวคต่อไปหรือไม่หลังผลผลข้างเคียงจำนวนมากนั้น พลเอกณัฐพล ระบุว่า ยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนต่อไปเนื่องจากประเทศผู้ผลิตก็ยังใช้อยู่และไม่ได้มีผลกระทบอะไรร้ายแรง และตนก็ย้ำกับคนใกล้ชิดอยู่เสมอว่าหากประเทศผู้ผลิตยังคงใช้อยู่ ก็สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นวัคซีนที่ดี