svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

หอบหลักฐานแจ้งความถูกแฮ็กเฟซบุ๊กอ้างปัญหาโควิดยืมเงินเพื่อน

07 พฤษภาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ข้าราชการบำนาญ หอบหลักฐาน เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากถูกแฮ็กเข้า Facebook ส่งข้อมูลกระจายไปยังบรรดาเพื่อนสนิทขอยืมเงิน อ้างประสบปัญหาโควิดไม่มีรายได้ มีเพื่อนหลงเชื่อโอนเงินให้หลายราย หลายหมื่นบาท

7 พฤษภาคม 2564 ที่ สถานีตำรวจภูธรโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ นายทองสุข ยิ่งใหญ่ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 9 ตำบลอีเซ อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ได้หอบหลักฐานจำนวนหนึ่งที่ได้จากโทรศัพท์มือถือของตนเองและบรรดาเพื่อนๆ ที่ส่งมาให้ ภายหลังจากถูกมือดีแอบแฮ็ก ข้อมูลเข้า Facebookส่วนตัว ก่อนที่จะสวมรอยเป็นตนเอง ส่งข้อความกระจายไปยังเพื่อนๆ กล่าวอ้างโน้มน้าวเพื่อขอยืมเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและครอบครัว







หอบหลักฐานแจ้งความถูกแฮ็กเฟซบุ๊กอ้างปัญหาโควิดยืมเงินเพื่อน










โดยอ้างว่าขณะนี้ประสบปัญหาโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ขาดรายได้ เงินทองที่เก็บสะสมไว้หลังเกษียณอายุราชการ มาเป็นข้าราชการบำนาญ ก็ไม่พอใช้จ่าย ลูกที่เคยส่งเงินให้ใช้เป็นประจำทุกเดือน ก็ไม่มีรายได้ในช่วงนี้ อยากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ให้โอนเงินเข้าบัญชี ที่ตนขอยืมด้วย ซึ่งมีเพื่อนสนิทหลายคนที่หลงกลมือแฮ็กข้อมูล โอนเงินเข้าบัญชีตามคำขอโดยไม่เฉลียวใจ แถมบางคนยังเขียนข้อความมาสอบถามใน LINE ส่วนตัวว่า ทำไมขอยืมน้อยจังแค่ 2,000 บาท จากนั้นจึงทำให้นายทองสุข เอะใจ โทรศัพท์กลับไปหาเพื่อนๆ จึงรู้ว่ามีคนแฮ็กข้อมูลขอยืมเงินกับเพื่อน จึงได้แจ้งกับเพื่อนว่าไม่เป็นความจริง และที่เพื่อนส่ง LINE มาบอกเพราะเลขบัญชีที่ให้มาพอโอนเงินไปเข้าบัญชีแล้วกลับกลายเป็นชื่อของคนอื่น โดยปรากฏชื่อในเลขบัญชีที่โอนไป ขึ้นว่า นายธีระพงศ์ เพื่อนๆ จึงได้โทรศัพท์มาสอบถามเรื่องเลยแดงขึ้น ก่อนที่นายทองสุขจะนำเอกสารมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ฉ้อโกงประชาชนโดยกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์








หอบหลักฐานแจ้งความถูกแฮ็กเฟซบุ๊กอ้างปัญหาโควิดยืมเงินเพื่อน











นายทองสุข เล่าว่า มีน้องคนหนึ่งได้โทรศัพท์ส่ง LINE มาบอกว่าเข้า LINE เข้าเฟสไม่ได้สมัครเป็นเพื่อนแล้วรับผมหน่อย ซึ่งตนก็บอกว่าจำรหัสไม่ได้ เดี๋ยวเขาก็ถ่ายรูปหน้าจอส่งมาให้ดูว่าใช่อันนี้ไหม พร้อมส่งรหัสมาให้ตนเข้า ตนก็ลองเปิดเข้าไปดูก็ปรากฏว่าเป็นการเอาข้อมูลตนไปแฮ็กเข้าระบบ ซึ่งตนก็ไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้และไม่คิดว่าจะมีใครมาแฮ็กข้อมูล จากนั้นเพียง 30 นาที ก็มีเพื่อนสนิทคนหนึ่งโทรมาหา แจ้งว่าแชทข้อมูลมาเหรอ จะมายืมเงินเหรอ ตนก็บอกว่าไม่นะ ซึ่งเพื่อนก็ยืนยันมาว่าแชทข้อมูลมาและส่งข้อความมาขอยืมเงินจำนวน 4,000 บาท ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ขอยืมไม่ได้แชทไป โดยคนที่แชทไปจะเร่งเร้าสอบถามย้ำ ๆ ว่าได้ไหมขอด้วย มีธุระจำเป็นต้องใช้เดี๋ยวนี้ สาเหตุที่เพื่อนโทรมาถามก่อนเพราะเคยมีประสบการณ์โดนแฮ็กข้อมูลยืมเงินชื่อนี้มาก่อน

หอบหลักฐานแจ้งความถูกแฮ็กเฟซบุ๊กอ้างปัญหาโควิดยืมเงินเพื่อน

มีเพื่อนสนิทโอนเงินเข้าบัญชีให้ เท่าที่ทราบ 4 - 5 ราย เป็นเงินรวมกว่า 40,000 บาท และที่ยังไม่ทราบในบรรดาเพื่อนสนิทอีกหลาย 100 คน ตนจึงมาขอแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่แอบแฮ็กข้อมูล ซึ่งตนได้ถ่ายเอกสารใบหน้าผู้ที่แฮ็กข้อมูลใน Facebook มีชื่อ นามสกุล มีเลขที่บัญชีเงินฝากที่โอนเข้าไป ซึ่งเป็นเลขเดียวกันทั้งหมด นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา หลอกลวงฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เลยขอประกาศแจ้งบรรดาเพื่อนที่สนิท อย่าได้หลงเชื่อว่าตนส่งข้อความไปขอยืมเงิน โดยอ้างว่าประสบปัญหาโควิด-19 และไม่มีเงินใช้ เพราะการกระทำดังกล่าวไม่ใช่ตัวตนของตน






หอบหลักฐานแจ้งความถูกแฮ็กเฟซบุ๊กอ้างปัญหาโควิดยืมเงินเพื่อน
















ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อติดตามแกะรอยหามือแฮก เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว






หอบหลักฐานแจ้งความถูกแฮ็กเฟซบุ๊กอ้างปัญหาโควิดยืมเงินเพื่อน


















logoline