คุมตัว"ไอ้โอ๋"ทำแผนข่มขืนแม่ชี-หนีโรงพัก

   วันที่ 17 มีนาคม 2564 เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองเรือ คุมตัวนนายอัฉริยะ สีทา หรือ โอ๋ อายุ 24 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่จุดแรกที่นายโอ๋ได้หลบหนีไป ที่ สภ.หนองเรือ จุดที่สองเป็นจุดที่ลักรถจักรยานยนต์ จุดที่สามเป็นบริเวณสวนปฏิบัติธรรมบ้านหนองโนตำบลบ้านเม็ง อำเภอหนองเรือ เป็นจุดที่นายโอ๋ข่มขืนแม่ชีพิการวัย 79 ปี และจุดสุดท้ายเป็นบริเวณที่นายโอ๋นอนหลบซ่อนตัว


  จุดแรกเป็นจุดที่นายโอ๋เดินหลบหนีออกมาจากสภ.หนองเรือ ขณะที่ใส่กุญแจมืออยู่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายโอ๋มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 2 เป็นบริเวณสะพานลอยตรงข้ามกับ สภ.หนองเรือ เป็นที่นายโอ๋ได้ข้ามถนนไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ขณะซื้อของ และไม่ได้ถอดกุญแจ นายโอ๋ได้ใช้มือที่ใส่กุญแจมืออยู่นั้นมาจับที่แฮนด์รถข้างขวาและขับย้อนศรไปยังสี่แยกหนองเรือ  

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายโอ๋มาทำแผนกระกอบคำรับสารภาพจุดที่นายโอ๋นั้นได้ปีนเข้าไปบริเวณด้านหลังของกระท่อมและได้ลงมือข่มขืนแม่ชีวัย 79 ปี ก่อนโดนเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในครั้งแรก และจุดสุดท้ายเป็นบริเวณที่นายโอ๋ ได้มานอนเพื่อหลบหนีการจับกุมอยู่บริเวณกระท่อมหลังสวนปฏิบัติธรรมบ้านหนองโน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้บริเวณจุดดัวกล่าวพร้อมกับรถจักรยานยนต์ของกลางในวันที่หลบหนีออกจากโรงพัก

 นายโอ๋ ผู้ต้องหา กล่าวว่า หลังจากหลบหนีมาจากโรงพัก ก็ไม่คิดว่าตำรวจจะตามมาและได้หนีมาหลบอยู่ที่กระท่อมหลังศูนย์ปฏิบัติธรรม ภายหลังจากถูกจับกุมตัวก็อยากขอโทษสังคม และหลังจากออกจากคุกมาก็พร้อมจะกลับตัวเป็นคนดี 

ภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายโอ๋ ดำเนินคดีตามกฎหมายและคุมตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดชุมแพใน 5 ข้อหาประกอบด้วย ผู้ขับขี่เสพยาเสพติด,ข่มขืนกระทำชำเรา,ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์,กักขังหน่วงเหนี่ยว,และ หลบหนีที่คุมขังของเจ้าพนักงาน