ร้านอาหารเปิดให้วัยรุ่นเที่ยวไร้มาตรการป้องกันโควิด

1 กุมภาพันธ์ 2564 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งนำภาพถ่ายจากกล้องหน้ารถ ขณะที่ขับผ่านเส้นทางถนนสายชัยภูมิ-บ้านเขว้า อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 31 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก ออกมาจับกลุ่มบนถนนและวิ่งไล่ทำร้ายกัน มีทั้งอาวุธมีด ขวางปาสิ่งของใส่กัน และยังมีเสียงคล้ายปืนดังขึ้นมาอีกหลายครั้ง โดยใช้ชื่อภาพระบุว่า "แถวนี้...เถื่อนไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ ณ ร้านข้าวมันไก่แห่งนึง"

และยังมีคลิปบรรยากาศในร้านที่มีวัยรุ่นจำนวนมาก ดื่มเต้น โดยภายในร้านปล่อยให้เข้าไปจำนวนมาก ไม่มีมาตรการป้องกันโควิดแต่อย่างใด

ซึ่งล่าสุดนายอนุชา เจริญลักษณ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ได้ประสานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบ โดยเฉพาะปัญหาในขณะนี้ที่ยังเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในพื้นที่และในทั่วประเทศ ในย่านถนนดังกล่าวที่ยังมีกลุ่มวัยรุ่นออกมาจับกลุ่มเที่ยวกันจำนวนมาก และมีการจับกลุ่มออกมายกพวกตีกันในจุดนี้มาแล้วบ่อยครั้ง รวมทั้งชาวบ้านในพื้นต่างหวั่นเกรงว่าจะเป็นจุดเสี่ยงแพร่ระบาดของโควิด -19 ในพื้นที่








ซึ่งหลังจากการตรวจสอบต่อกรณีมีคลิปหลักฐานมีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกัน มีผู้บาดเจ็บครั้งนี้รวมเบื้องต้น 3 คน และ 1 ใน 3 รายบาดเจ็บสาหัสและยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ซึ่งถูกมีดฟันบริเวณข้อมือด้านซ้ายหวิดขาด และ มีร่องรอยบริเวณหน้าผากและศีรษะแตก ได้รับบาดเจ็บสาหัสเย็บไปแล้วกว่า 20 เข็ม ทราบต่อมาชื่อนายจิรศักดิ์ มณีโนนโพธิ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยต้อน อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

นายประสิทธิ์ มณีโนนโพธิ์ พี่ชายของผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส วัย 20 ปี เปิดเผยว่า น้องชายและเพื่อนได้มาดื่มกินกันที่ร้านแห่งนี้ 3 คน และได้โทรบอกตนเองว่ากำลังจะกลับบ้าน แต่ระหว่างเดินออกจากร้าน ได้ถูกทำร้าย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนได้ถามกับน้องชายว่าได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุหรือไม่เบื้องต้นไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุเลย แต่คาดว่าตอนขากลับออกมาจากร้าน มีกลุ่มวัยรุ่นกำลังจับกลุ่มดักทำร้ายกันอยู่แล้ว และกลุ่มน้องชายตนเองอาจจะเดินออกมาพอดี จนถูกวัยรุ่นจำนวนมากกว่า 10-15 คน เข้ามาทำร้าย น้องชายตนเองบาดเจ็บหนักสุดพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ที่ก็ถูกทำร้ายศีรษะแตกเย็บไปคนละ 3-5 เข็ม






ได้แจ้งความกับ ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้นแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้หลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดใกล้เคียงมาเพื่อเป็นหลักฐานติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันทำร้ายน้องชายและเพื่อนมาดำเนินคดีโดยเร็ว