จากกรณีที่นายวิโรจน์ และนางเตียง กอไธสง สองสามีภรรยาชาว ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงาและอีกหลายหน่วยงาน ช่วยเหลือตามหา น.ส.ภาวิณี กอไธสง หรือ น้องเก๋ ขณะนั้นอายุ 23 ปี ลูกสาว ได้หายตัวไปอย่างลึกลับมานานกว่า 7 ปี หลังจากศึกษาจบและรับปริญญาเสร็จ ก็เดินทางไปหางานทำที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อเดือน พ.ค.2556 ซึ่งตอนแรกลูกสาวยังโทรศัพท์มาหาพ่อแม่ อาทิตย์ละ1 - 2 ครั้ง แต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2556 ลูกสาวไม่ได้โทรติดต่อหาเลย สอบถามญาติเพื่อนที่รู้จักคุ้นเคย และญาติที่ทำงานอยู่ที่ จ.ชลบุรี ก็ไม่มีใครพบเห็นหรือรู้ว่า น.ส.เก๋ หายไปไหน เมื่อพ่อแม่เดินทางไปดูที่ห้องเช่าทั้งเสื้อผ้า ข้าวของ และเอกสารที่เตรียมไปสมัครงานยังอยู่ครบ มีเพียงโทรศัพท์และกระเป๋าสะพายที่พกติดตัวไปด้วย แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ทำให้พ่อแม่ต้องทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 7 ปี
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายวิโรจน์ และนางเตียง สองสามีภรรยาอีกครั้ง เพื่อสอบถามความคืบหน้า ซึ่งทั้งสองก็ได้นำรูปถ่ายของลูกสาวออกมาให้ทีมข่าวดู และให้ข้อมูลว่าขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสของลูกสาวเลย แต่ก็ยังไม่เลิกความพยายามที่จะตามหาลูกสาว ใครแจ้งมาว่าเจอผู้หญิงลักษณะคล้ายลูกสาวก็จะรีบไปดูทันที ส่วนสาเหตุที่ลูกหายตัวเชื่อว่าถูกแก๊งค้ามนุษย์ลักพาตัวแน่นอน อยากให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตามหา ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเก็บเสื้อผ้าข้าวของของลูกสาวไว้เพราะเชื่อว่าลูกยังมีชีวิต ทั้งนี้ยังได้จุดธูปไหว้ศาลพระภูมิหน้าบ้านเพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้ตามหาลูกเจอ และขอให้ลูกกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย
นางเตียง ผู้เป็นแม่ บอกว่า ถึงแม้ลูกจะหายไปอย่างลึกลับนานกว่า 7 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังว่าลูกยังมีชีวิต ซึ่งที่ผ่านมานอกจากจะออกตามหาลูกสาวตามสถานที่ต่าง ๆ แล้ว ก็ได้หันพึ่งทางไสยศาสตร์ทั้งดูหมอ เข้าทรง ถึงแม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ก็ทำให้ครอบครัวมีหวังและรู้สึกมีกำลังใจ คุณแม่ยังบอกทั้งน้ำตาด้วยว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาต้องใช้ชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็นทุกข์ทรมานใจทุกวัน เพราะคิดถึงลูกมาก ปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ไม่อยากได้อะไรนอกจากอยากจะได้ลูกสาวกลับคืนเป็นของขวัญปีใหม่
ด้านนายวิโรจน์ ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ทุกข์ทรมานใจมากหลังจากที่ลูกสาวหายไปนานกว่า 7 ปี คนในครอบครัวถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่หลายวัน ที่ผ่านมาก็ออกตามหาลูกทุกช่องทาง ใครที่บอกว่าเคยเห็น หรือรู้จักกับลูกสาวก็ไปสอบถามหมด ถึงขั้นต้องยอมขายรถหกล้อที่ไว้สำหรับประกอบอาชีพทำการเกษตร และรับจ้าง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตามหาลูกสาว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเบาะแสอะไร ตนก็ยังหวังว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจจะถูกกักขังไม่สามารถติดต่อครอบครัวได้ ส่วนกรณีที่ลูกหายไปก็เชื่อว่าอาจจะถูกล่อลวง หรือตกเป็นเหยื่อของแก๊งค้ามนุษย์ อาจจะพาออกนอกประเทศไปแล้ว ก็อยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามหาลูกสาวด้วย เพราะเป็นห่วงลูกมาก หากใครพบเบาะแสอะไรก็ขอให้แจ้งทางครอบครัว หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา ก็ขอบคุณทางตำรวจ มูลนิธิกระจกเงา สื่อและพลเมืองดีที่ช่วยแจ้งเบาะแส แม้ว่ายังจะยังไม่เจอลูก แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเจอลูกในรูปแบบไหนก็รับพร้อมยอมรับได้แค่ขอให้รู้ว่าเป็นลูกสาว
นายวิโรจน์ ยังบอกอีกว่า ตนเองมีลูกสาว 3 คน น.ส.วิภาณี หรือน้องเก๋ เป็นลูกสาวคนโต คนกลางเพิ่งเรียนจบก็ไปทำงานแล้ว ส่วนคนเล็กกำลังเรียนอยู่ หลังจากที่ลูกสาวคนโตหายไป ตนก็จะเตือนลูกสาวอีก 2 คนตลอดว่าอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ เพราะกลัวจะถูกล่อลวงหรือหายไปเหมือนกับพี่สาวอีก