"เนชั่นทีวี" สัมภาษณ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าพิสูจน์ศพ พบว่า การผ่าชันสูตรศพกรณีพบคนผูกคอตาย สามารถบอกได้ว่าคนคนนั้นผูกคอตายเอง หรือเป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยดูจากหลักฐาน คือ ร่องรอยตามร่างกาย ว่าถูกทำร้ายมาก่อนหรือไม่ ถูกมอมยาหรือไม่ ซึ่งเป็นการตรวจทาง "พิษวิทยา" รวมถึงแนวแผลของการผูกคอ เพราะหากว่ามีบุคคลอื่นทำให้ตาย แนวแผลจะแตกต่างกับการผู้คอด้วยตัวเอง
สาเหตุการตายของคนที่ผูกคอตาย คือ ขาดอากาศหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกับการถูกอุดปาก อุดจมูก เช่น เอาหมอนอุด หรือบีบคอ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แยกแยะลักษณะจากอวัยวะภายใน และรอยแผล ว่าถูกทำให้ตายด้วยสาเหตุอะไรแน่ ซึ่งต้องอาศัยรูปจากที่เกิดเหตุก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายศพมาพิจารณาปรกะอบด้วย
ส่วนแผลที่ข้อมือ ก็ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์เช่นกัน ว่าเป็นการทำร้ายตัวเอง เช่น กรีดข้อมือ หรือมีคนอื่นทำร้าย
สุดท้าย คือ ข้อสงสัยของญาติที่ว่า ทำไมทางเจ้าหน้าที่จึงไม่แจ้งญาติก่อน ที่จะมีการเคลื่อนย้ายศพไปชันสูตร เรื่องนี้ว่ากันแบบกลางๆ ตามกฎหมายกรณีพบผู้เสียชีวิต ไม่มีข้อบัญญัติใดระบุว่า ต้องขออนุญาตกับญาติผู้ตายก่อนนำศพไปชันสูตร แต่กฎหมายเขียนว่าต้องแจ้งญาติเท่าที่ทำได้ ซึ่งกฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องรักษาสิทธิ์ของคนตาย อย่าลืมว่าหากปล่อยเวลานานเกินไป ศพจะเปลี่ยนสภาพ และหลักฐานบางส่วนอาจถูกทำลาย
ท้ายที่สุด ควรรอผลการชันสูตรอย่างละเอียด แต่ที่พอทำได้ในตอนนี้ คือ การทำความเข้าใจกับญาติผู้ตายถึงกระบวนการตามกฎหมาย ประเด็นไหนที่ญาติติดใจก็ควรสื่อสารกัน และเปิดการพูดคุยให้มากที่สุดเพื่อสร้างความเข้าใจ