ราคายางพาราตุลาคมดีดตัวต่อเนื่อง-คาดบวกยาวจนสิ้นปี

นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ราคาผลผลิตยางพารา ในรอบเดือนตุลาคม ทั้งยางแผ่นดิบ , น้ำยางสด ( ณ โรงงาน) ทั้งราคาประมูลยางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลางยางพารา สงขลา และยางแผ่นร่มควันชั้น 3 ซึ่งเป็นราคาประมูล ณ ตลาดกลางยางารา สงขลา เช่นกัน ส่งสัญญาณที่ปรับขึ้นต่อเนื่องโดย ราคา ณ วันที่ 28 ตุลาคม ราคายางแผ่นดิบท้องถิ่น อยู่ที่ 70.35 บาท / กิโลกรัม เทียบกับ 1 ตุลาคม ราคาอยู่ที่ 52.85 บาท / กิโลกรัม และเมื่อย้อนไปยัง ราคา ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2562 อยู่ที่กิโลกรัมละ 38 บาท หรือ ราคายางแผ่นร่มควันชั้น 3 ราคาประมูล ณ ตลาดกลางยางพารา สงขลา วันที่ 28 ตุลาคม อยู่ที่ 82.80 บาท / กิโลกรัม ส่วน 1 ตุลาคม อยู่ที่ 56.89 บาท / กิโลกรัม คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ไปจนถึงสิ้นปีราคายางพาราจะยังคงอยู่ในแนวบวกอย่างต่อเนื่อง จนอาจสร้างสถิติใหม่ในรอบหลายปี และน่าจะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารามีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากราคาดังกล่าว

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยด้านอุปสงค์อุปทานและมาตรการส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้เป็นแรงบวก ส่งให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น อ้างอิงได้จากปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติเดือนตุลาคม 2563 อยู่ที่ 4.4 แสนตัน น้อยกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ประมาณ ร้อยละ 10 ขณะเดียวกันความต้องการยางในตลาดเพิ่มสูงขึ้นในสินค้าประเภทยุทธภัณฑ์ ถุงมือยาง ยางยืด นอกจากนั้นแล้วการที่จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้ายางพาราที่มากที่สุด มีการเติบโตของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.9 ดัชนี PMI ของจีนยังอยู่ที่ 51.50 ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนยังคงมีการขยายตัว

คำสั่งซื้อยางพาราของจีนกลับมาฟื้นตัว การจำหน่ายรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 63 กำลังการผลิตของโรงงานผลิตยางรถยนต์เพิ่มขึ้น ปัจจัยเหล่านี้มีแนวโน้มให้เกิดการใช้ยางมากขึ้น เชื่อว่าราคายางยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จนเกรงว่า ผลผลิตยางพาราของไทย อาจจะไม่เพียงพอสำหรับความต้องการนำเข้าของตลาดต่างประเทศ