พล.ต.ท. กรไชย กล่าวว่าบช.สอท.นับเป็นกองบัญชาการแรกของประเทศไทยที่จะมุ่งหน้าปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในปัจจุบัน เราจะปกป้องเยาวชน ประชาชน และสังคมไทยให้เกิดความเชื่อมั่นและเป็นที่ศรัทธาภายใต้หลัก 5 ป.คือ
1.ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนทั่วราชอาณาจักรอย่างมีประสิทธิภาพ
2.ปราบปรามด้วยสมรรถนะที่สูงยิ่ง
3.ปฏิบัติการบูรณาการข้อมูลข่าวสารอย่างมีระบบ
4.เปิดเผยผลงานสู่สาธารณะและเชื่อมโยงภาครัฐอย่างมีธรรมาภิบาล
5.ปฏิรูปการสืบสวนสอบสวนเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
"ในอดีตผมเป็นนักกีฬารักบี้ฟุตบอลและได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงาน คือ ทุกคนไปด้วยกัน เล่นด้วยกันไม่มีใครเก่งกว่าใคร ผมเป็นเหมือนหัวหน้าทีมที่จะนำนักกีฬาทั้ง 7 กองบังคับการในการรับผิดชอบคดีอาญาทุกรูปแบบทั่วประเทศผมจะสู้และทำงานด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ทุ่มเทสติปัญญาให้กับองค์กรนี้ตามคติขององค์กรคือ ไซเบอร์คอป แอนตี้ไซเบอร์ไครม์"
สำหรับข้อจำกัดในตอนนี้ คือ
1.ความจำเป็นในการคัดสรรบุคคลเข้ามาทำงานตอนนี้มีตำรวจ 333 นายภายในเดือนแรกเราจะสร้างการรับรู้วิทยาการใหม่ และภายใน 3 เดือนจะสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตต่างๆ กลับจากนั้นภายใน 6 เดือนจะเริ่มรับแจ้งความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือวิดีโอคอลโดยจะพิจารณาความผิดเป็นบางคดี หากเข้าข่ายก็จะให้การช่วยเหลือ แต่บางคดี เช่นการแฮกข้อมูลหรือหลอกโอนเงิน ท้องที่สามารถดำเนินการเองได้ แต่หากไม่มีวิทยาการเราจะช่วยเหลือแล้วมอบงานกลับไป ให้ทำแล้วเสร็จใน 15 วัน จากนั้นใน 1 ปี จะรับแจ้งความอย่างสมบูรณ์แบบทุกคดีทุกเรื่อง
และ 2.ยังมีข้อจำกัดด้านเครื่องมือและอุปกรณ์เนื่องจาก บช.สอท.ได้ก่อตั้งขึ้นภายหลังการพิจารณางบประมาณจึงประสานดีอีเอสพิจารณาของบไปเเล้ว" ผบช.สอท.กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต บช.สอท.จะมีกองบังคับการต่างๆตั้งอยู่ทั่วประเทศ อาทิภาคกลาง กทม.ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ภาคอีสาน จ.ขอนแก่นภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานีเพื่อรองรับในการร้องทุกข์ของประชาชน