สูตรปรับ ครม.สูตรนี้ ฟังดูมีความเป็นไปได้มากทีเดียว เพราะ นายสุพัฒนพงษ์ ก็เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี เรียกว่าเป็น "ทีมลุงตู่" อยู่แล้ว ขณะที่ นายสุริยะ ก็จะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพล้งงานสมใจเสียที แก้ปัญหาคลื่นใต้น้ำภายในพรรคพลังประชารัฐไปได้อีก 1 เปลาะ
แต่จากการสอบถามแหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ความว่า สูตรปรับ ครม.นี้แม้จะดูดีในทางการเมือง แต่มีความเป็นไปได้น้อยมาก และน่าจะเป็นข่าวปล่อยจากบางกลุ่มที่ต้องการให้เกิดการปรับใหญ่ เขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีกันอีกรอบ หรือไม่ก็ขยับเพื่อต่อรองอะไรบางอย่างมากกว่า / เพราะการที่นายสุพัฒนพงษ์นั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอยู่ในปัจจุบัน ถือว่าลงตัวแล้ว / และกลุ่ม "ผู้มีบารมีนอก ครม." ซึ่งมีบทบาทสูงในวงการพลังงานของประเทศ ก็พึงพอใจกับตำแหน่งที่นายสุพัฒนพงษ์นั่งอยู่ และต้องไม่ลืมว่า นายสุพัฒนพงษ์ กำลังจะมีแผนรื้อโครงการ "โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก" ที่วางไว้โดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีพลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐด้วย
ขณะที่ นายสุริยะ นั้น หากจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีพลังงานตามที่ปรารถนา ก็น่าจะได้ตั้งแต่การปรับ ครม.ครั้งที่ผ่านมาแล้ว ไม่น่าจะมาได้ในครั้งถัดไป ซึ่งรัฐบาลกำลังเผชิญแรงกดดันทางการเมืองรอบด้าน ทั้งในและนอกสภา
แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคพลังประชารัฐ จึงเชื่อว่า สูตรการปรับ ครม.ที่ปรากฏเป็นข่าวล่าสุด เรื่อง นายสุพัฒนพงษ์ นั่งควบรัฐมนตรีคลัง สุดท้ายน่าจะไม่เกิดขึ้นจริง และถึงแม้จะมีกลุ่มก๊วนภายในพรรคพลังประชารัฐบางกลุ่มสนับสนุน ถึงขั้นล่าสุดส่งผ่านหัวหน้าพรรค พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีก็ตาม และสุดท้ายเชื่อว่านายกฯก็คงตีตกสูตรปรับ ครม.สูตรนี้ และคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการเฟ้นหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากคนนอกต่อไป ขณะที่ "คนใน" อย่าง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังคงแสดงความพร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังเช่นที่เพิ่งแสดงบทบาทชี้แจงในสภาแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันเก้าอี้ตัวนี้ยังว่างอยู่