28 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ "พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์" ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาลในการสืบสวนติดตามและจับกุมตัว นาย อัฐษฎา มินทะยัก หรือ "แดนหัวใจระเบิด" วัย 19 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.352/2567 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2567
โดยถูกตั้งกล่วหาว่า "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ภายใน ซ.จริญสนิทวงศ์ 85 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด จ.กรุงเทพ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา
สำหรับพฤติการณ์ ได้มีการส่งแชทข่มขู่สาววัย 17 ปี หลังจากที่เคยได้เผยแพร่คลิปลับในโลกโซเชียล ก่อนจะข่มขู่หวังจะให้กลับไปมีสัมพันธ์อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แต่ด้วยผู้เสียหายไม่ยอม จึงไปแจ้งความดำเนินคดีจนทำให้ถูกตามราวีจนตกอยู่ในความเครียด ต้องนอนร้องไห้ทุกคืน ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันวาเลนไทน์เมื่อปี 2567
จนล่าสุดจึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะ หรือ "พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ" สว.กก.สส.3 ออกไล่ล่า กว่า 18 ชั่วโมง ของการลาดตระเวนชุดสืบสวน ก่อนพบเบาะแสว่าคนร้ายจะไปเสพกัญชากับพรรคพวกย่านจรัญสนิทวงศ์ จึงวางกำลังในพื้นที่จนพบตัวคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากซอย โดยมีผู้เสียหายยืนยัน
ก่อนชุดสืบสวนไล่ล่าไปถึงบริเวณ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 85 และเข้าชาร์จจับกุมตัวกลางถนนทันที โดยหลังจับกุมตัวคนร้ายได้นำพาชุดสืบสวนไปตรวจค้นบ้านพัก ทำให้ชุดสืบสวนได้พบกับเด็กสาววัย 14 ปี ที่ถูกคนร้ายล่อลวงมา
ซึ่งเมื่อชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่า Miss Call ในโทรศัพท์ของเด็กสาววัย 14 ปี มีญาติพยายามติดต่อมาเกือบ 100 สาย โดยชุดสืบสวนจึงรีบติดต่อไปยังผู้ปกครอง ทำให้ทราบว่าเด็กสาวรายนี้หลบหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่วันสงกรานต์ปี 67
อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนขุดคุ้ยไปอีกพบว่า คนร้ายได้ถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กสาวไว้จำนวนมาก และยังมีการแชทสนทนาเพื่อขายคลิปลับเหล่านี้อีกด้วย
โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ขยายผลการจับกุมจนทราบว่าตลอดเวลาที่คนร้ายล่อล่วงเด็กสาวรายนี้มานั้น ได้ลงมือกระทำชำเรา , ถ่ายคลิปวีดิโอ และยังบังคับให้เสพกัญชา โดยชุดสืบสวนได้ส่งตัวเด็กสาววัย 14 ปี รายนี้กลับคืนผู้ปกครองอย่างปลอดภัยแล้ว พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางขุนเทียน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุม นายอัฐษฎา ให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง เพราะเคยคบหาเป็นแฟนกันก่อนจะเลิกรากันไป เนื่องจากถูกจับได้ว่านอกใจ จึงพยายามตามง้อขอคืนดีแต่กลับถูกปฏิเสธ จึงขู่กับผู้เสียหายว่า ถ้าเลิกกันจะโพสต์รูปเปลือยในโซเชียลฯ เพื่อให้ผู้เสียหายอับอายและยอมกลับมาคืนดีกับตน
ทั้งนี้ แต่เมื่อโพสไปแล้วผู้เสียหายได้พาผู้ปกครองเข้าแจ้งความที่สน.บางขุนเทียน และตนก็โต้ตอบไปยังแชทผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายจึงดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตนก็ยังไปเยาะเย้ยผู้เสียหายอีกว่า เพราะความโกรธและความคึกคะนอง ยืนยันไม่มีญาติเป็นตำรวจหรือทหารแต่อย่างใด
ส่วนเด็กสาวที่เจ้าหน้าที่พบที่บ้านพักนั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นแฟนใหม่ของตน เพิ่งเจอกันเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา จากนั้นได้คบหากันเป็นแฟนโดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองของแฟนตนไม่ทราบ โดยให้แฟนใหม่ของตนโกหกที่บ้านว่า ปิดเทอมขอไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนผู้หญิง
จากนั้นจึงมาอยู่กินกับตนเรื่อยมาตั้งแต่หลังสงกรานต์ โดยไม่ให้แฟนใหม่ของตนรับโทรศัพท์จากผู้ปกครอง เพราะไม่อยากให้ทราบเรื่อง ซึ่งเมื่อมาเจอแฟนใหม่รู้สึกดีกว่าแฟนเก่า โดยตนยืนยันว่าขอไม่ไปขอคืนดีกับแฟนเก่าอีก
อย่างไรก็ตาม คนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้ว 3 คดี คือ
ส่วนที่ตนเองมีฉายาว่า "แดนหัวใจระเบิด" เพราะว่าสักลายรูปหัวใจระเบิดบริเวนหน้าอก แต่ยังสักไม่เสร็จ เพราะช่างที่สักให้ ถูกสืบนครบาลจับไปก่อนหน้านี้ที่ จ.ภูเก็ต หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดย พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า "พฤติกรรมของคนร้ายถือว่าไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ท้าทายอวดอ้าง ถือเป็นภัยต่อเด็กและเยาวชนอย่างยิ่ง อีกทั้ง การกระทำเช่นนี้นั้นสร้างบาดแผลในจิตใจเด็ก ยิ่งกว่านั้น การที่ชุดจับกุมยังไปพบว่าปัจจุบันยังอยู่กินอาศัยกับเด็กสาววัยเพียง 14 ปี ซึ่งไร้เดียงสามาก ถูกล่อลวงจนกระทั่งแม้แต่ตอนจับกุม ยังพูดปกป้องตัวคนร้าย จึงต้องมีกฏหมายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุ้มครองให้กับเด็กเหล่านี้ เพื่อมิให้ถูกล่อลวง
"จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครอง โปรดเพิ่มความใส่ใจในตัวบุตรหลานของท่าน อย่าไว้วางใจและคลาดสายตา แม้แต่กระทั่งคนใกล้ชิด ซึ่งหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ "สืบนครบาล IDMB" เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และ พล.ต.ท.ธิติ" พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว