
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ทวิตข้อความว่า " ครูโยนแปรงลบกระดานใส่นักเรียนเหตุเพราะคุยกัน ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นพบนักเรียนคุยกันในห้องเรียน คว้าแปรงลบกระดานโยนใส่นักเรียนบริเวณเสื้อ ทั้งนี้ครูไม่สมควรลงโทษนักเรียนแบบนี้ หากพลาดโดนหัวหรือเข้าตาขึ้นมาจะเกิดอันตราย " ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นขึ้นระหว่างครูกับลูกศิษย์ในชั้นเรียน โดยครูคนดังกล่าวนั้นได้โมโหที่นักเรียนคุยกัน ทำให้ห้ามอารมณ์ไว้ไม่อยู่ จนต้องคว้าแปรงลบกระดานโยนใส่นักเรียนที่ด้านหลังทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวหากแปรงเกิดไปกระทบตรงบริเวณอื่น อาจจะได้รับอันตรายได้
หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้มีชาวทวิตเข้ามาวิจารณ์มากมาย " วุฒิภาวะไม่น่าจะอบรมสั่งสอนใครได้เลย,แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเดี๋ยวนี้เลยค่ะ คนแบบนี้ไม่สมควรเป็นครูนะคะขนาดอารมณ์ตัวเองยังคุมไม่ได้อย่าริอาจไปสอนเด็กเลยค่ะ,ของเรานี่คือรรประถม.ชื่อดังในจ.เชียงใหม่ ตอนนั้นเราอยู่ป.3 เพื่อนห้องข้างๆมาเล่าให้ฟังว่ามีครูคนหนึ่งโยนแปรงลบกระดานใส่นักเรียนเพราะนักเรียนเป็นเด็กไม่นิ่ง (พวกเด็กพิเศษอะค่ะ จะอยู่นิ่งไม่ค่อยได้แล้วก็เอาแต่ใจด้วย)คือโยนใส่แรงมาก จนเพื่อนคนนั้นหัวแตกเลยค่ะ , สงสัยว่า ยังมีครูไทย ให้เด็กถอดเข็มขัด แล้วให้ฟาดก้นกันเองไหมครับ ครูไทยทำไรก็ไม่ผิด,วุฒิภาวะมันไม่ช่วยกลั่นความเป็นคนหรอคะ ,เยี่ยม สอนดีมาก แก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ดีๆเป็นการสอนที่ดีจริงๆ,มีตั้งหลายวิธี อันนี้คือทำร้ายร่างกายกันแล้ว ควรที่จะแจ้งความ, อยากให้ตอนนั้นมีแบบนี้บ้าง ตอนประถมเราเคยโดนทำโทษโดยการให้ทำมือขนมจีบแล้วใช้แปรงลบกระดานตีเพราะส่งงานช้า5นาที โดนลุกนั่งเพราะเข้าห้องช้า เราเอาเรื่องนี้ไปบอกคนรอบข้าง ทุกคนมองว่าการลงโทษเด็กแบบนี้คือเรื่องปกติ มองว่าเราผิด,แล้วใครจะรับผิดชอบเสื้อนักเรียนโดนหมึกเข้าไปซักไม่ออกหรอกนะทำไมเป็นครูแล้วไม่ใช้สมองคิดเลย"
ทั้งนี้ทางเพจเฟซบุ๊ก กฎหมายไทย ปรึกษาปัญหาทางกฎหมายฟรี ได้เคยโพสต์ว่า การลงโทษนักเรียนในระหว่างการเรียนการสอน ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 ห้ามมิให้ลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือกลั่นแกล้ง หรือด้วยความโกรธหรือความพยาบาท โดยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป
ซึ่งระเบียบนี้ กำหนดการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาไว้ ๔ สถาน ดังนี้ (๑) ว่ากล่าวตักเตือน (๒) ทำทัณฑ์บน (๓) ตัดคะแนนความประพฤติ (๔) ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ยังมีเรื่องร้องเรียนครูลงโทษด้วยวิธีรุนแรง เช่น ตบหน้า ตบหัว เอาสันไม้บรรทัดตีหัว หยิก ใช้ไม้ตีขา น่อง ก้น อย่างรุนแรงจนเกิดรอยบวมช้ำเลือด เอารองเท้าครูตบหน้า หรือใช้มือชกไปที่ท้องของนักเรียน หรือสั่งลงโทษโดยให้วิ่งรอบสนามกลางแดดหลายรอบ จนเด็กเป็นลมหมดสติไป เป็นต้น
การการกระทำเหล่านี้เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงศึกษาธิการดังกล่าวทั้งสิ้น มีความผิดทางวินัยข้าราชการแล้ว ผิดจรรยาบรรณในวิชาชีพครู และยังเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อืนด้วย น้อยที่สุดคือข้อหาใช้กำลังทำร้ายแรงผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ