svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กสศ.เปิด BIG Data ดึงเด็ก4ล้านคนกลับสู่การศึกษา

01 สิงหาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา" เปิดตัวระบบ iSEE 2.0 ค้นหาเด็กยากจนและเข้าไม่ถึงการเรียน กว่า 4 ล้านคน หวังดึงกลับเข้าสู่ระบบอย่างเท่าเทียม พร้อมตั้ง 5 เป้าหมายหลักสู่ความสำเร็จในอนาคต

(2 สิงหาคม 2563) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดแถลงข่าวเปิดตัวระบบ "iSEE 2.0 นวัตกรรมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา"เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2563ที่ผ่านมา เพื่อใช้เครื่องมือสำคัญช่วยเหลือไปถึงเด็กๆได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ตรงตามสภาพปัญหาอย่างแท้จริงพร้อมจัดเวทีเสวนา "EdTech และการขับเคลื่อนสังคมด้วยข้อมูล (Data Activism) กรณีศึกษาระบบ iSEE กับการระดมความร่วมมือเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา"

ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า กสศ.ได้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Information System for Equitable Education : iSEE) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BIG Data รายบุคคล ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชน ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสมากกว่า 4 ล้านคน โดยเชื่อมโยงข้อมูลเด็กและครอบครัวกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของ 6 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงงาน และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS)

ทั้งนี้ เพื่อที่จะช่วยให้ผู้ทำนโยบายมองเห็น สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำได้ชัดเจนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนเป็นเครื่องมือให้กับหน่วยงาน ภาคีต่างๆ ที่มีภารกิจในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ในอนาคต ซึ่งระบบ iSEE นับเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการศึกษา ที่จะช่วยยกระดับการค้นหา คัดกรองเด็กเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษาอย่างละเอียด โดยจะสำรวจตั้งแต่ระดับประเทศ ภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล โรงเรียน จนถึงรายบุคคล ทำให้ติดตามสถานการณ์การศึกษา อัตราการมาเรียน รายได้เฉลี่ยของครัวเรือน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในอนาคต ฯลฯ เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือได้เข้าถึงตัวเด็กอย่างทันท่วงที

"จุดเด่นของระบบ iSEE คือ การแสดงข้อมูลสุขภาวะและทุพโภชนาการของเด็กและเยาวชน ข้อมูลสถานะครัวเรือนและสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน ข้อมูลการเดินทางระหว่างไปโรงเรียน ข้อมูลสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของโรงเรียน และจากการประมวลผลข้อมูลพบปี 2562 มีนักเรียนในระบบการศึกษาหายไปครึ่งหนึ่งหลังจบ ม.3 ยังพบว่า 3 จังหวัด ได้แก่ ตาก กรุงเทพ แม่ฮ่องสอน มีเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษามากที่สุด" รองผู้จัดการ กสศ.กล่าว

ดร.ไกรยส กล่าวด้วยว่า กสศ.ต้องการจัดทำระบบ iSEE ให้เป็น user- centered data Visualization Tools หรือนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนในรูปแบบที่ง่ายและสอดคล้องกับการใช้จริงของภาคีเครือข่าย ในการทำให้สังคมไทยมองเห็นเด็กทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ผ่าน 5 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.มีระบบสารสนเทศที่เชื่อมโยงฐานข้อมูลในหลายกระทรวง 2.Virtual Live ข้อมูล ให้เป็น user center design มีการทำกราฟตาราง ที่ง่ายต่อการใช้งาน เพื่อนำไปแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมได้อย่างง่าย 3.ปฏิรูปกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เช่น การระดมทุน หรือ การจัดค่ายอาสาพัฒนาชนบท ที่สามารถมองเห็นเด็กหรือโรงเรียนได้ชัดมากที่สุด

นอกจากนี้ 4.ขับเคลื่อนทรัพยากรและเครือข่ายในสังคม เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา 5.สนับสนุนผู้ที่ต้องการเป็นนักวิจัย start up ผู้ประกอบการทางสังคม และสื่อมวลชน ให้มีพลังในการขับเคลื่อนวาระทางสังคมมากขึ้น ด้วยข้อมูลทันสมัย เพื่อช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งระบบ iSEE ยังมีระบบการตอบกลับที่เป็นวงจร สามารถนำข้อมูลกลับมารายงานได้ว่า มีจำนวนเด็กได้รับการช่วยเหลือ เด็กจบการศึกษา รวมถึงเด็กได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแล้วกี่คน โดย กสศ. หวังว่าระบบ iSEE จะมีผู้ใช้งานเข้ามาใช้ฐานข้อมูลอย่างต่อเนื่องจนเกิดความยั่งยืน เพื่อให้กรอบการทำงานระยะยาวของ กสศ. ที่มองว่า Data เป็นการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ นำไปสู่ความเสมอภาคทางการศึกษาในอนาคต

กสศ.เปิด BIG Data ดึงเด็ก4ล้านคนกลับสู่การศึกษา

นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวถึง ed tech และการขับเคลื่อนสังคมด้วยข้อมูล ว่า ส่วนตัวทำงานด้านสตาร์ทอัพมาหลายปี และตอนนี้มีสตาร์ทอัพที่ลงทุนอยู่ด้วย 78 ราย และในฐานะผู้ปั้นสตาร์ทอัพในประเทศไทย ทำให้รู้ว่า ฐานข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการแจ้งเกิดสตาร์ทอัพอย่างมาก และระบบiSEE2.0 ของ กสศ.ทำให้รู้ว่า จะต้องพัฒนาระบบ ที่สตาร์ทอัพ สามารถนำไปใช้ได้ และแก้ปัญหาได้ตรงจุด

ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด 19 ส่งผลให้เด็กไม่ได้ไปโรงเรียน โดยงานวิจัยจากแมคเคนซียังชี้ให้เห็นว่ากระทบต่อจีดีพีสหรัฐอเมริกา และมีเด็กถึง 4 ล้านคน ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ Old normal และ 4 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือ แต่จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Distrup) ทำให้ไม่มีข้อมูลในการเข้าไปช่วยเหลือ

"สตาร์ทอัพหลายภาคส่วนถามหาข้อมูลอยู่ไหน ซึ่งการที่ กสศ.สร้างระบบ iSEE ขึ้นมาเหมือนมอบพลังอำนาจแห่งเทคโนโลยีมาให้ ในเมื่อเราจะเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยพลังอำนาจของข้อมูล วันนี้ชวนทุกคนเข้ามาเปลี่ยนแปลงเรื่องการศึกษา เพราะการศึกษาเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ โดยร่วมกันเปลี่ยนแปลงเด็ก 4 ล้านกว่าคน เพื่อให้ประเทศไทยไปอยูข้างหน้าได้โดยเข้าไปในระบบ iSEE" นายเรืองโรจน์ กล่าวและว่าระบบ iSEE เป็นแพลทฟอร์มที่มีชีวิต หากผู้สนใจอยากได้ฟีเจอร์อะไรเพิ่มเติม ก็สามารถเข้ามาร่วมพัฒนากับ กสศ. ดังนั้น มาช่วยกันได้ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

กสศ.เปิด BIG Data ดึงเด็ก4ล้านคนกลับสู่การศึกษา

ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้ง startdee เน็ตฟลิกซ์แห่งวงการการศึกษาไทย กล่าวว่า สตาร์ทดี และกสศ. มีเป้าหมายต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปัจจุบันเด็กไทยเจอความเหลื่อมล้ำสองตลบ ตลบที่หนึ่ง เป็นคุณภาพการเรียนการสอนในแต่ละโรงเรียน ไม่เท่ากันระหว่างหัวเมืองกับชนบท และตลบที่สอง คือ ช่องทางการเรียนนอกห้องเรียน ถูกปิดกั้นด้วยวัฒนธรรมการเรียนพิเศษที่ราคาค่อนข้างสูง สิ่งที่เล็งเห็น คือ สัดส่วนเด็กไทยเข้าถึงการศึกษามีคุณภาพจึงไม่สูงมาก

อย่างไรก็ตาม การใช้งานในส่วนของระบบ iSEE ส่วนแรกมาจากความสงสัยส่วนตัว ต้องการตรวจสอบตัวเอง อยากรู้ว่าเด็กเข้าถึงแอปพลิเคชั่นของสตาร์ดี เป็นเด็กยากจนมากน้อยแค่ไหน จึงเอาข้อมูลโรงเรียนของนักเรียนที่ใช้แอปพลิเคชั่น ไปจับคู่กับข้อมูลใน iSEE ดูว่าโรงเรียนนี้มีสัดส่วนเด็กยากจนมากน้อยแค่ไหน พบว่าโรงเรียนที่มีสัดส่วนเด็กยากจนถึง 80-100% ซึ่งเมื่อรู้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ก็ทำให้สามารถออกแบบการเรียนรู้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย

"เพราะเรารู้ว่าเรากำลังช่วยเหลือใครอยู่ ทำให้สามารถต่อยอดได้ เพราะมีเอกชนหลายแห่งพร้อมสนับสนุน เรื่องการศึกษา เรานำข้อมูล กสศ. มาเทียบว่า เด็กคนไหนมีกำลังจ่ายมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีฐานะดีอยู่แล้ว ทุนการศึกษาจะให้คนอื่น ซึ่งเรานำทุกโรงเรียนที่อยู่ในระบบเรามากาง และเทียบสัดส่วนเด็กยากจนจากมากไปน้อยโดยเราเห็นว่าจังหวะก้าวการทำงานของ กสศ. เร็วกว่าการทำงานของภาครัฐที่คุ้นเคย การช่วยลดความเสมอภาคไม่จำเป็นต้องให้สิ่งเดียวกับทุกคน แต่สามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดกับทุกคน ซึ่งเครื่องมืออย่าง iSEE ช่วยสตาร์ทอัพอย่างสตาร์ทดีให้ไปสู่เป้าหมายจุดนั้นได้" นายพริษฐ์ กล่าว

ด้าน น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าว 3 มิติ กล่าวว่า จากประสบการณ์ทำงานข่าวที่ผ่านมาได้เจอปัญหาของเด็ก และโรงเรียนที่ยากจน จึงนำเสนอเรื่องราวต่างๆให้คนทั่วไปได้รับรู้ แต่พอมีคนมาถามว่า จะไปบริจาคให้เด็กยากจนที่ไหนได้บ้าง ก็บอกได้แค่ที่ไปเจอ แต่พอมีฐานข้อมูล iSEE 2.0 ทำให้ทราบว่า จริงๆแล้ว มีเด็กยากจน และต้องการความช่วยเหลืออีกเป็นจำนวนมาก และคนเหล่านั้นต้องการให้ภาครัฐ หรือหน่วยงานต่างๆ เข้าไปให้การช่วยเหลือ


กสศ.เปิด BIG Data ดึงเด็ก4ล้านคนกลับสู่การศึกษา

logoline