สาวโพสต์เตือนหนองขึ้น เชื้อโรคเข้าเหตุจากดึงจมูกเล็บ

จากกรณีที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @ELFnokyoonG ได้โพสต์ภาพนิ้วของตนเองที่กำลังบวม และภาพนิ้วที่มีการพันผ้าก็อต พร้อมข้อความระบุว่า เราจะขอเตือนทุกคนที่ชอบ'ดึงจมูกเล็บ' ว่าขอให้หยุดเถอะ แม้จะรำคาญแค่ไหน ให้ตัดออกพอ ถ้าไม่อยากจบด้วยการ'ถอดเล็บ'แบบเรา ปกติเวลาเราดึงอย่างมากคือเลือดออก แต่รอบนี้นิ้วเราดันบวมอักเสบ เพราะเชื้อโรคเข้า จนหนองขึ้น สุดท้ายต้องถอดเล็บเพื่อเอาหนองและเลือดเสียออกให้หมด

นอกจากนี้เจ้าโพสต์ยังเผยต่ออีกว่า ขอเตือนอีกทีว่ามันทรมานมากจริงๆการถอดเล็บ ตอนนี้ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว ทรมานมาก เจ็บมากๆจนร้องไห้เลย ใช้ชีวิตประจำวันลำบากไปหมด อย่าหาทำเลยนะทุกคน

หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย โดยมีคอมเมนต์ว่าเราเป็นบ่อยมากเลยค่ะ ขอแชร์วิธีของเราคือ ห้ามแผลโดนน้ำกับใช้ยาชื่อLoprox ซื้อตามร้านยาได้เลย เป็นขวดเล็กๆน้ำยาสีใส จะมีที่ทาแผลติดกับฝาขวด ทาลงไปที่ซอกเล็บที่เจ็บไม่เกิน 5 วันหายค่ะ ทาตั้งแต่รู้สึกเจ็บแรกๆก็จะหายเร็วแต่ทางที่ดีอย่ากัดเล็บหรือดึงจมูกเล็บแรงค่ะ ให้ตัดออกดีกว่า , เข้าใจเลยค่ะเราก็เคยเป็นแต่เราไม่ถึงขั้นถอดเล็บ มันเป็นหนองบวม ของเรากีดเอาหนองออกเลยค่ะ เวลาทำแผลเอาสำลียัดในแผลเจ็บสุดๆไปเลย , โดนงัดเล็บเหมือนกัน หมอบอกการทำเล็บเจลก็มีส่วนเวลาโดนแซะหน้าเล็บเยอะๆ , เราเคยเป็นแบบคุณเลยค่ะ แต่เราไม่ได้ชอบดึงจมูกเล็บแต่หนังรอบเล็บชอบลอกกับเล็บหักแทงเนื้อ ไปหาหมอที่ห้องพยาบาลมหาลัยก็บอกว่าทำได้แค่ถอดเล็บเท่านั้น , เคยโดนถอดเล็บตอนม.ต้น จำไม่ได้แล้วว่าเพราะอะไร แต่อยู่ดีๆก็คือนิ้วบวม หมอบอกต้องถอดเล็บนะคะ ตอนถอดไม่เท่าไหร่ตอนยาหมดฤทธิ์คือแม่เอ๊ย น้ำตาไหล แล้วต้องไปล้างแผลเปลี่ยนผ้าก็อตทุกวันด้วย กว่าเล็บจะขึ้นใหม่อีกเป็นอะไรที่ถ้าใครเคยโดนจะลืมไม่ลงเลยค่ะ

ด้านกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำให้ตัดเล็บมือและเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอโดยควรตัดเล็บมือสัปดาห์ละครั้ง ตัดเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่วนผู้ที่ชอบเข้าไปใช้บริการทำเล็บในร้านเสริมสวย ผู้ใช้บริการควรเลือกร้านที่เน้นความสะอาดปลอดภัยก่อนทำทุกครั้งที่ทำ และไม่ควรให้ช่างทำเล็บแซะที่ขอบเล็บ เพราะจะทำให้เกิดแผลอักเสบเป็นหนอง และลุกลามถึงข้อกระดูกได้