พระราชทาน "ห้องตรวจหาเชื้อ" แห่งที่ 18 ให้โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทาน "ห้องตรวจหาเชื้อ" แห่งที่ 18 ให้ "โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี" ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19
วันที่ 10 มิ.ย.2563 ที่
โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีนายมนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแพทย์กิตติศักดิ์อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และนายปรเมศวร์ นิสากรเสน VicePresident-Regional Business
ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเอสซีจี ร่วมพิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวเพื่อเสริมความพร้อม หากมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งห้องตรวจหาเชื้อพระราชทานดังกล่าว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน "ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)" ภายใต้
"โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน" ให้กับ"โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี" เป็นแห่งที่ 18 โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจี ดำเนินการก่อสร้างให้20 โรงพยาบาลทั่วประเทศเพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ซึ่งห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวมีการแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ออกจากกันและใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคโดยสามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ในเวลาเพียง 3 วันช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งประชาชนที่มาตรวจรักษายังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระเมตตาต่อบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน รวมถึงประชาชนในจังหวัด สุราษฎร์ธานี อย่างหาที่สุดมิได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน
"ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)" ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นับเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลกับทางจังหวัด ที่จะนำไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย และเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นแนวหน้า เพื่อให้มีความปลอดภัยในการปฏิบัติงานต่อไป
สำหรับ นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้ ภายในห้องตรวจมีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และมีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี ทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง
จึงช่วยป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก การเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้เข้ารับการตรวจ ใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานทุกครั้ง โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต จึงสามารถติดตั้งที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งาน
ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม
"ห้องตรวจหาเชื้อ" พัฒนาโดย
"เอสซีจี" ได้แก่ 1.รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3. รพ.กลาง 4. สถาบันโรคทรวงอก 5. สถาบันบำราศนราดูร 6. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7. รพ.ตำรวจ 8. รพ.ราชบุรี 9. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 10. รพ.นครปฐม 11. รพ.อุตรดิตถ์ 12. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 13. รพ.นครพิงค์ 14. รพ.พหลพลพยุหเสนา 15. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 16. รพ.อุดรธานี 17. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.หาดใหญ่ และ 20. รพ.สงขลานครินทร์