เปิดประวัติเด็ก 16 ซิ่งเก๋ง แท้จริงคือว่าที่ดาวยิงทีมชาติไทย!

ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดยผู้บาดเจ็บกับแฟนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ก่อนเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่แยกชิดลม โดยคู่กรณีได้ชนแล้วหลบหนีไป ทั้งยังทราบว่าคู่กรณีเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และรถคันดังกล่าวยังทะเบียนขาดอีกด้วย

โดยผู้บาดเจ็บได้ออกมาโพสต์ลงโซเซียลเมื่อวันที่ 29 เมษายน เนื่องจากว่า ได้เรียกค่าเสียหายเป็นค่ารักษาพยาบาล และค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ เป็นจำนวน 160,000 บาท แต่แม่ของเยาวชนคนดังกล่าว ไม่ยินยอม และบอกว่าถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา ดังนั้นผู้เสียหายจึงเตรียมที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้สืบทราบมาว่า เยาวชนคนที่ก่อเหตุมีดีกรีเป็นถึงอดีตเยาวชนนักเตะทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี สร้างชื่อมาจากฟุตบอลนักเรียน อยู่ในสังกัดโรงเรียนดังที่ผลิตนักเตะขึ้นสู่ไทยลีกและทีมชาติไทยมาแล้วหลายคน..หนุ่มคนนี้เป็นลูกครึ่งผิวสี เล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า อีกทั้งยังผ่านการเล่นในศึกฟุตบอลขาสั้นรายการใหญ่ อย่าง "จตุรมิตรสามัคคี" มาแล้ว.. มีจุดเด่นที่ความเร็ว,ความแข็งแกร่ง และจังหวะการจบสกอร์ที่เฉียบคม จนทำให้ฟอร์มไปเข้าตา "โค้ชดาท" ธงชัย รุ่งเรืองเลิศ กุนซือทีมชาติไทย ชุดยู-16 ปี ในตอนนั้น ก่อนที่จะสร้างความฮือฮาด้วยการถูกเรียกติดทีมชาติไทย ไปแข่งขันรายการอุ่นเครื่องที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นนักเตะในชุดเดียวกันกับ "ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา" ดาวรุ่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและทีมชาติไทยเจ้าหนุ่มคนนี้ได้รับคำชื่นชมจากโค้ชหลายๆคน ด้วยบุคคลิกการเล่นฟุตบอลที่แข็งแกร่ง รวดเร็ว ทักษะดีเยี่ยมเกินเด็กในรุ่นเดียวกัน ถึงขึ้น "โค้ชดาท" เคยเอ่ยปากชมว่า สไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับ "คาร์ลอส เตเบซ" อดีตศูนย์หน้าของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยทีเดียว.. ซึ่งนั่นคงเป็นเพราะว่าฝีเท้าของเจ้าหนูรายนี้ ถูกถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมจากคุณพ่อของเขา ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตนักเตะทีมชาติเหมือนกัน

น่าเสียดายที่แข้งหนุ่มรายนี้ไม่มีชื่อติดทีมชาติไทย ในชุดลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศเมียนมาเมื่อปี 2562 ทว่าหลังจากนั้นก็มีชื่อถูกเรียกทีมชาติไทยประปราย โดยล่าสุดเพิ่งถูกเรียกเป็น 1 ใน 27 ขุนพล ชุดยู-17 ปี ลุยทัวร์นาเมนต์พิเศษที่ฮ่องกงเมื่อช่วงต้นปี แต่ก็ยังไม่ทันได้เดินทางไปเพราะต้องถอนทีมจากการเริ่มแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงนั้นสื่อกีฬาหลายสำนักยกให้เด็กคนนี้เป็นแข้งดาวรุ่งไทยที่น่าจับตามอง แต่ดูเหมือนว่าอนาคตของแข้งลูกครึ่งรายนี้ที่กำลังสดใสกลับต้องหม่นหมองจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความฝันของเขาที่หวังว่าจะได้รับใช้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ในสักวัน คงต้องดับสลายไป.. เพราะความประมาท,ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และความคะนองในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ..ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้คงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับเยาวชนอีกหลายๆคนได้ไม่มากก็น้อย เพราะว่าความประมาทหรือความคะนองแค่ครั้งเดียว ก็อาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปได้ทั้งชีวิตเหมือนเจ้าหนุ่มดาวรุ่งทีมชาติไทยรายนี้...