ตร.ชุดสืบภาค 4 ล่อซื้อขายหน้ากากอนามัยเกินราคาผ่านทางเฟซบุ๊ก ได้ของกลางเพียบ

พล.ต.ต มาโนช สุภาพพูล ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ วสันต์เกศะรักษ์ รอง ผบก.กก.สส.ภ. 4พ.ต.อ อคัรวินต์ สุคนธวิท ผกก.สืบสวน. 2 บก.สส.ภ.4 ได้รับการประสานข้อมูลจากทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ดว่าได้ตรวจสอบภายในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้ที่จำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ต่อมาได้ให้สายลับทำการล่อซื้อผ่านทางเฟสบุ๊คโดยผู้ต้องหาได้เสนอขายในราคากล่องละ 750 บาท

จากนั้นสายลับจึงได้ทำการสั่งซื้อจำนวน 65 กล่องเป็นเงิน 47,000 บาท และจับได้พร้อม ธนบัตรสำหรับล่อซื้อรวม 47,000 บาท ซึ่งสายลับได้ติดต่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยทางเฟสบุ๊ค โดยผู้จำหน่ายได้เสนอขายในราคากล่องละ 750 บาท และนัดส่งของกันที่บริเวณหน้าศูนย์อาหารภายในสถานีบริการน้ำมัน ป.ต.ท. ตำบลหนองแวง ริมถนนสายร้อยเอ็ด-มหาสารคาม ในเขตอำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

หลังจากนัดหมาย ผู้ต้องหาได้นำหน้ากากอนามัยมามอบให้กับสายลับ และจ่ายเงินเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ซุ่มดูอยู่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันทีจึงนำตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ไม่ปฎิบัติตามประกาศของคณะกรรมกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ 2563 เรื่องกำหนดราคา จำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัย ข้อ 3 ลงวันที่ 5 มี.ค 2563 ออกตามความในมาตราเรื่อง 25(1) กำหนดราคาของหรือราคาจำหน่ายสินค้าควบคุมหรือให้ผู้จำหน่ายในราคาไม่สูงกว่าราคาที่กำหนดดังประกาศดังกล่าว กำหนดให้จำหน่ายปลีกไม่สูงกว่าชิ้นละ 2.50 บาท

และแจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายสินค้าควบคุมในราคาสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด อันเป็นความผิดตามมาตรา 25 (1) และมีโทษตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดในการดำเนินการใดๆ โดยจงใจที่จำทำให้ราคาสูงเกินสมควรหรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด อันเป็นความผิดตามมาตรา 29 และมีโทษตามมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ดเพื่อดำเนินคดีต่อไป