ส.อ.ท.ชี้นักลงทุนคลายกังวลหลังศาลยกคำร้องยุบ อนค.

สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท. ระบุ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น เนื่องจากข้อขัดแย้งของสถานการณ์การเมืองไทยลดน้อยลง ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลใจ โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะโตในกรอบ 2.5-3% ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ประเมินไว้ 
ทั้งนี้ ปัจจัยลบที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ เงินบาทแข็งค่า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ภาคเกชนกังวล โดยต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาดูแล รวมถึงผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5  ที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรต้องเร่งเข้ามาแก้ไข  
ด้าน กลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุ การตัดสินยกคำร้องยุบพรรคอนาคตของศาลรัฐธรรมนูญ จะช่วยทำให้บรรยากาศทางด้านเศรษฐกิจไทยดีขึ้น และทำให้นักลงทุนต่างชาติคลายความกังวลใจ เพราะก่อนหน้านี้มีทางสหภาพยุโรป หรืออียู ก็ได้จับตาสถานการณ์การเมืองไทย และสอบถามเข้ามายังหอการค้าไทยถึงทิศทางอนาคตประเทศไทยในเรื่องดังกล่าว ว่าจะส่งผลความวุ่นวายภายในประเทศไทยอย่างไรบ้าง แต่เมื่อมีคำตัดสินออกมา จะทำให้นักลงทุนต่างชาติสบายและมีทิศทางที่ชัดเจนต่อการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอียูต้องการทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยและอียู ก็จะเดินหน้าต่อไป
สำหรับ การขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้มองว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยกกร.ประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2563 ไว้ในกรอบ 2.5-3% แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวใกล้เคียง 3% โดยทุกฝ่ายต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจไทยเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการดึงดูดนักลงทุนจากจีนที่ต้องการย้ายฐานการผลิต ซึ่งอยู่ระหว่างการเลือกลงทุนระหว่างไทยและเวียดนาม ดังนั้นไทยต้องสร้างบรรยากาศการลงทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนเหล่านี้เข้ามา 
ส่วนปัจจัยลบที่กังวลในปีนี้ คือค่าเงินบาทแข็งค่า โดยรัฐบาลต้องผลักดันให้เอกชนใช้โอกาสนี้ในการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรเข้ามาลงทุนผลิตสินค้า เพราะจะได้ต้นทุนที่ต่ำลง ส่วนปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเช่นกัน เพราะส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว หากว่าไทยจะเป็นประเทศที่มีค่าฝุ่นสูงอยู่ แต่เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้น หรือเป็นฤดูกาล