รอง ผบ.ตร. ยันรวบแล้ว"แม่มณี" พร้อมนำตัวสอบขยายผลหาทรัพย์สิน

ความคืบหน้าหลอกร่วมลงทุนแชร์แม่มณี ที่หลอกลวงลงทุนเงินโดยอ้างเงินปันผลดอกเบี้ยร้อยละ 93 จนมีผู้เสียหายจำนวนมากในหลายจังหวัดที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ มีมูลค่าความเสียหายร่วมหลายร้อยล้านบาท

วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2562) มีรายงานว่าตำรวจชุดสืบสวนทีมคลี่คลายคดี ประกอบด้วยตำรวจกองบังคับการสืบสวนภูธรภาค 4, ภาค 5 ,ภาค2, ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล และตำรวจกองบังคับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือเดียร์ ฉายา แม่มณี อายุ 28 ปี และนายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1623-1624 /2562 ลงวันที่ 29 ต.ค.2562 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งบริเวณ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งขณะนี้กำลังควบคุมตัวทั้งสองผู้ต้องหาไปสอบปากคำ และคาดว่าจะพาตัวไปยัง จ.อุดรธานี เพื่อซักถามถึงข้อมูลทางการเงินทั้งหมด

นอกจากนี้มีรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.วันทนีย์ และนายเมธี พร้อมตรวจค้นตัวและที่พัก พบว่ามีทรัพย์สินติดตัวอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผล และหารถสปอร์ตที่มีผู้พบเห็นก่อนหน้านี้ รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ที่คาดว่าจะนำไปซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และใกล้เคียง จากนั้นเมื่อขยายผลเสร็จเรียบร้อย จะคุมตัวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อต่อเครื่อง ก่อนเดินทางไปยัง จ.อุดรธานี เพื่อสอบสวนขยายผลต่อ

ทางด้านพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. กล่าวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับ " แม่มณี" ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่ห้องเช่าในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวไปขยายผลตรวจค้นหาทรัพย์สินเพิ่มเติม จากนั้นจะนำตัวมาที่กองบิน6 และนำตัวไปจังหวัดอุดรธานีทันที เนื่องจากใช้หมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานีเข้าจับกุม และจังหวัดอุดรธานี มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความจำนวนมาก ล่าสุดประมาณ 244คน รวมถึงมีการทำธุรกรรมบัญชีต่างๆ และมีการใช้สถานที่ในการหลอกลวงประชาชน เช่น อาคารพาณิชย์ที่จัดฉากเป็นร้านทองด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ มีทรัพย์สินติดตัวเล็กน้อย คือ โทรศัพท์3เครื่อง ,I-pad 1เครื่อง ,Notebook 1 เครื่อง เงินสดประมาณหมื่นกว่าบาท ทั้งนี้ไม่พบเงินสด หรือทรัพย์สินอื่นๆ