คดีนี้มีผู้เสียหายถึง 25 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 3 แสนบาท / โดยคนร้ายใช้ช่องทางก่อเหตุด้วยการเข้าไปตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล โดยใช้วิธีโทรศัพท์เข้าไปหลอกเหยื่อ และใช้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายเชื่อมข้อมูลกับบัตรเครดิต ก่อนจะนำไปใช้รูดปรื๊ด รูดปรื้๊ด ซื้อสินค้าหลายรายการ
พฤติการณ์ของคนร้ายที่อาศัยความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมการเงินผ่านโลกออนไลน์ กลายเป็นภัยสังคมที่น่าหวาดกลัว
ตำรวจทีมสืบสวนจาก "ศูนย์สืบสวนนครบาล" เปิดโปงวิธีการที่คนร้ายยุค 4 จีนำมาใช้ในการก่อเหตุว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยเป็นพนักงานสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารแห่งหนึ่ง และปัจจุบันเป็นพนักงานขายประกันรถยนต์ รวมทั้งขายรถมือสอง จึงทำให้มีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขบัตรประชาชน / วันเดือนปีเกิด / เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขบัตรเครดิต รวมถึงรู้ขั้นตอนติดต่อการทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัตรเครดิต ทำให้หลอกเหยื่อได้อย่างง่ายดาย
พันตำรวจเอก พรศักดิ์ ยังบอกอีกว่า แม้สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการธุรกรรมจะมีมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และแจ้งข้อความการทำธุรกรรมการเงินไปยังเจ้าของบัตรก็ตาม แต่คนร้ายก็ยังหาช่องว่างที่สามารถเข้าไปขโมยหรือค้นหาข้อมูลได้ ซึ่งผู้ใช้งานเองก็ต้องให้ความสำคัญในการตรวจสอบข้อความที่สถาบันการเงินแจ้งเตือนกลับมาอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อไม่ให้ตนเองต้องตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
เทคโนโลยีก้าวกระโดดในยุคโซเชียลฯ แม้จะสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานก็ตาม แต่ความง่ายมักจะแฝงไปด้วยอันตรายที่มองไม่เห็นเสมอ-----------------------------
สามารถร้องทุกข์และติดตามปัญหาต่างๆ ที่เป็นภัยสังคมได้ที่ ช่วง #ล่าความจริง กับ อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30 น. (ในข่าวเก็บตกภาคเที่ยง) ทางช่อง NationTV 22