
วัน อยู่บำรุง ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ เผยว่าตนได้ถูกแมลงก้นกระดกเล่นงานผมอีกแล้ว!!! (7 ต.ค.)
.
ซึ่งล่าสุดวันนี้เจ้าตัวได้โพสต์ภาพความคืบหน้าล่าสุดเป็นลำดับอาการในแต่ละวัน โดยได้ระบุว่า... เรียงลำดับอาการโดนด้วง(แมลง)ก้นกระดกจู่โจมครับ
.
.
ทั้งนี้เหล่าแฟนคลับและพี่น้อง ใจถึงพึ่งได้ ก็ต่างพากันแสดงคอมเมนต์ให้กำลังใจกันมากมาย โดยขอให้วัน อยู่บำรุงหายไวๆ
รู้จักแมลงตัวต้นเหตุ
แมลงนี้มีชื่อเรียกทั่วไปว่า ด้วงก้นกระดก ชื่อเรียกอื่นๆ คือ แมลงก้นกระดก ด้วงปีกสั้น ด้วงก้นงอน ด้วงกรด หรือแมลงเฟรชชี่(เพราะพบบ่อยในหมู่นักศึกษาใหม่ที่อยู่หอปีแรก) เป็นต้น
แมลงชนิดนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Paederus fuscipes Curtis และมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Rovebeetles ตัวเต็มวัยมีสีดำสลับส้ม ยาวประมาณ 5-7 มิลลิเมตร หัวสีดำ อกส่วนหน้าแบนยาว ส่วนท้องมี 6 ปล้อง 4 ปล้องแรกสีส้มอมน้ำตาล ส่วนที่เหลือสีดำ ขาทั้ง 3 คู่มีสีน้ำตาลแดงปีกแข็งด้านบนสีน้ำเงินเข้ม และปีกอ่อนข้างใต้ เป็นแมลงที่มีอายุอยู่ได้ยาวนาน มีความว่องไว ไต่ไปตามต้นข้าว บินได้เร็วและว่องไว เวลาวิ่ง จะยกปลายท้องตั้งขึ้นคล้ายแมงป่องจนเรียกว่า "ด้วงก้นกระดก"
ด้วงก้นกระดกจะมีสารพิษชชื่อว่า พีเดอริน (Paederin) สารชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนสามารถทำลายเซลล์เนื้อเยื่อผิวหนังได้ ด้วง 1 ตัว จะมีสารพิษอยู่ในตัวประมาณร้อย 0.025 ของน้ำหนักตัว โดยตัวเมียจะมีปริมาณสารพิษมากกว่าตัวผู้มาก ทำให้อาจเป็นเหตุให้เข้าใจผิดได้ว่า แมลงชนิดนี้ไม่มีอันตรายมาก หากเคยโดนด้วงตัวผู้ ซึงผู้โดนจะไม่ค่อยมีอาการเนืองจากมีสารพิษจำนวนน้อย
ที่อยู่ของด้วงก้นกระดก
ปกติจะพบกับแมลงกระดกได้ตามพงหญ้า หรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ แต่พอหน้าฝน จะมีการระบาดของแมลงกระดก ทำให้เป็นอันตรายต่อคนทุกวัย ทั้งผู้ใหญ่ เด็กเล็ก และทารก
อาการของผู้สัมผัสอาการผิวหนังอักเสบจากด้วงก้นกระดกเกิดจากการสัมผัสสารพีเดอริน ซึงมักเกิดจากการทีมีแมลงมาเกาะตามร่างกายแล้วเผลอปัด หรือบี้ทำให้แมลงท้องแตกและสัมผัสกับสารพิษนั้น
อาการจะมากหรือน้อยขึ้นกับปริมาณสารพิษทีสัมผัส โดยอาการจะไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่จะมีอาการหลังสัมผัสแล้วประมาณ 8-12 ชั่ว โมง ทำให้อาจจะไม่ได้ประวัติการสัมผัสแมลงที่ชัดเจนจากผู้ป่วย
รอยโรคพบมากบริเวณนอกร่มผ้า โดยมีลักษณะเป็นผื่นแดงหรือเป็นรอยไหม้ รูปร่างมักเป็นทางยาว ทิศทางหลากหลาย(ตามรอยปัด) ผืนมีขอบเขตชัดเจน ในระยะต่อมาจะมีตุ่มน้ำพองใสและตุ่มหนองขนาดเล็กเกิดขึ้นตามมาในเวลา 2-3 วัน อาการคันมีไม่มากนัก แต่มักมีอาการแสบร้อนร่วมด้วย เมือสัมผัสกับสารพีเดอรินในบริเวณรอยพับต่าง ๆ อาทิ พับข้อศอก ข้อเข่า มักกระจายไปสัมผัสทังสองด้าน จะเกิดผื่นสองผื่นทีลักษณะคล้ายกันในแต่ละด้าน เป็น mirror imagesหรือ kissing lesions หากสารพีเดอรินกระจายถูกบริเวณดวงตา ก็จะเกิดอาการตาบวมแดงและอาจทำให้ตาบอดได้ อาการที่ตานี้ มีชือเรียกเฉพาะว่า "ตาอักเสบแบบไนรูบี"(Nairobi eye" or "Nairobiconjunctivitis") เพราะแมลงเหล่านีี้ก็พบได้บ่อยแถวแอฟริกาด้วยเช่นกันผื่นบริเวณใบหน้า รอบดวงตา หรือบริเวณผิวอ่อน มักจะมีอาการรุนแรงมากกว่าที่อื่นส่วนบริเวณฝ่ามือซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทีสัมผัสสารพิษเป็นแห่งแรก กลับไม่ค่อยมีอาการเนืองจากบริเวณนีมีผิวหนากว่าผิวส่วนอื่น
การรักษาและการป้องกันเมื่อสัมผัสกับแมลงและสารพิษพีเดอริน ก็ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ หรือเช็ดด้วยแอมโมเนีย อย่าเกาเพราะจะทำให้มีการติดเชื้อแทรกซ้อนได้หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์ ซึ้งจะใช้ยาทาสเตียรอยด์อย่างอ่อนทาบริเวณแผลและใช้วิธีประคบเปียกประมาณ 5-10 นาทีถ้ามีผื่นหนองหรือตุ่มน้ำพองใส วันละ 2-3 ครังจนกว่าตุ่มน้ำหรือตุ่มหนองจะแห้ง ในรายทีคันมาก อาจให้ยาแก้คัน และอาจให้ยาปฏิชีวนะถ้ามีการติดเชื้อแทรกซ้อน
การป้องกัน ทำได้โดย การหลีกเลียงการสัมผัสแมลง ก่อนนอน ควรปัดทีนอน ผ้าห่มแน่ใจว่าไม่มีแมลง ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เปิดไฟเฉพาะทีจำเป็นเพือไม่ให้แมลงชนิดนีี้มาเล่นไฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไฟนีออน ทีสำคัญคือ เมื่อท่านสัมผัสกับตัวแมลง หรือมีแมลงชนิดนี้มาเกาะตามร่างกาย อย่าตบหรือตีแต่ให้เป่าให้แมลงออกไป หรืออาจจะใช้เทปกาวใสมาแปะตัวแมลงออกไปเพียงเท่านี ท่านก็จะปลอดภัยจากด้วงก้นกระดก
อ้างอิงข้อมูล :สถาบันโรคผิวหนัง