
ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบการปรับเพิ่มเงินเดือนของพนักงานธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้ปรับเพิ่มเงินเดือนพนักงานที่ยังไม่ถึงอัตราขั้นต่ำของกระบอกเงินเดือน ให้ได้รับในอัตราขั้นต่ำและปรับเพิ่มเงินเดือนเพื่อชดเชยพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการที่ได้รับการปรับเงินเดือนเข้าสู่ระดับขั้นต่ำ โดยให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณาแนวทางการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบฯ ได้ตามแนวทางที่เหมาะสม รวมแล้วไม่เกิน 1% ของฐานเงินเดือนพนักงานทั้งนี้ ให้ปรับเพิ่มได้เพียงครั้งเดียวตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครรส.) โดยการขอปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนและการขอปรับเพิ่มเงินเดือนในแต่ละครั้งจะต้องเว้นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป ยืนยันการปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนครั้งนี้ ทั้ง 3 ธนาคารมีแผนจะใช้เงินรายได้ของตนเองเพื่อจ่ายเป็นค่าตอบแทนพนักงานที่เพิ่มขึ้น จึงไม่เป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเงินรายได้ดังกล่าวจะนำมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ของพนักงานในการสร้างรายได้มาชดเชยและการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โดยไม่ผลักภาระ ให้แก่ผู้ใช้บริการ
ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ เผยว่า การปรับโครงสร้างเงินเดือนครั้งนี้ เนื่องจากธนาคารทั้ง 3 แห่งไม่ได้ปรับฐานเงินเดือนมาหลายปี ตั้งแต่ปี 2552, 2554, 2558 จึงต้องการปรับฐานให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจปัจจุบัน และแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ได้ โดยเฉพาะระดับปฏิบัติการ โดยธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. ฐานตั้งแต่ 9,000-250,000 บาทต่อเดือน ส่วน ธอส.ตั้งแต่ 9,000-220,000 บาทต่อเดือน ภาพรวมไม่เกิน1% ของเงินเดือน ทั้งนี้ มอบหมายให้บอร์ดแต่ละแห่งพิจารณาปรับเงินเดือนให้เหมาะสม พนักงานคนใดเงินเดือนไม่ถึง 9,000 บาท ปรับให้ถึงฐานขั้นต่ำ เพื่อให้ระดับปฏิบัติงานแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ได้ ยืนยันการปรับโครงสร้างครั้งนี้ ไม่ได้หาเสียงทางการเมือง