svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์ผนึก'เจดี เซ็นทรัล' ดันสินค้าไทยลุยอี-คอมเมิร์ซ

18 ธันวาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระทรวงพาณิชย์ จับมือ เจดี เซ็นทรัล บริษัทอีคอมเมิร์ซ ที่ส่งสินค้าคุณภาพไทยไปขายบนเว็บไซต์ JD.com อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน ลงนามความร่วมมือเพิ่มศักยภาพ SME ดันสินค้าไทยสู่ตลาดโลก ติดตามจากรายงานคุณธนัญญา นาคเงิน

ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีศักยภาพมากจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมตลาดเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าปี 2565 ตลาด e-Commerce ของไทยจะมีมูลค่า 4.7 แสนล้านบาท กระทรวงพาณิชย์จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซ ด้วยการส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขันของไทยในตลาดโลก



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ บอกว่า ความร่วมมือระหว่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กับ เจดีกรุ๊ป จะผลักดันการค้าไทยสู่ตลาดออนไลน์จีนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านความร่วมมือในด้านไอทีโซลูชั่นสำหรับพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของไทยในตลาดโลก ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะเปิดโอกาสให้สินค้าจากประเทศไทยได้มีโอกาสเข้ามาเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มระดับโลก 



ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มองว่า การสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และเป็นช่องทางการเข้าตลาดจีนผ่าน JD.com ถือเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยอย่างมาก เพราะเป็นผู้นำด้านการค้าอีคอมเมิรซ์และเป็นเว็บไซต์ค้าปลีกขนาดใหญ่ของจีนที่มีผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านราย

ด้านประธานคณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด ญนน์ โภคทรัพย์ บอกว่า ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจเทคโนโลยี และสามารถใช้เทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ของ JD.com ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเจดี เซ็นทรัล ตั้งเป้าว่า ภายในปีหน้าบริษัทจะต้องมีผู้ค้าเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ราย และภายใน 5 ปีข้างหน้า จะสร้างยอดขายได้มากถึง 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การจับมือกันระหว่าง Thaitrade.com ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่างเจดีกรุ๊ป จะเป็นประโยชน์ในการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ชื้อและผู้ขาย เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าไทยในตลาดจีน ซึ่งในปีนี้การซื้อขายสินค้าไทยผ่าน Thaitrade.com อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท และคาดว่าหลังลงนามครั้งนี้มูลค่าการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวในปีหน้า เนื่องจากรัฐบาลจีนที่ให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีสำหรับการค้าออนไลน์ และ กระแสความนิยมของผู้บริโภคชาวจีนต่อสินค้าคุณภาพจากต่างประเทศ ก็เป็นโอกาสที่สินค้าไทยคุณภาพสูงหลากหลายประเภทสามารถเจาะตลาดกลุ่มดังกล่าวได้ ซึ่งตลาด E-commerce ในจีนนั้นเติบโตแบบก้าวกระโดด ปีนี้คิดเป็นมูลค่า 9 ล้านล้านหยวนและในปี 2563 คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 12 ล้านล้านหยวน

logoline