svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

(คลิปข่าว) หวั่น "ปลากัดไทย" ซ้ำรอย "วิเชียรมาศ" เจอต่างชาติฮุบ!

ช่วงนี้มีกระแสในโลกโซเชียลฯ และเปิดแคมเปญในเว็บไซต์ change.org เชิญชวนให้คนไทยช่วยกันลงชื่อสนับสนุนให้ปลากัดเป็น "สัตว์น้ำประจำชาติ" เนื่องจากเมื่อปลายปีที่แล้ว กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยเสนอคณะรัฐมนตรีให้ปลากัดเป็น "สัตว์น้ำประจำชาติของไทย" แต่ถูกรองนายกรัฐมนตรี คุณวิษณุ เครืองาม ตีตก บอกว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ จนทำให้คนรักปลากัด และเพาะเลี้ยงปลากัด หวั่นเกรงว่า หากรัฐบาลยังละเลยเรื่องนี้ อาจทำให้ปลาไทยซึ่งกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ตกเป็นของต่างชาติ ซ้ำรอยแมวไทย อย่างแมววิเชียรมาศ ที่ตกเป็นของอังกฤษมาแล้ว

นี่คือแคมเปญรณรงค์ในเว็บไซต์ change.org ที่เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ ซึ่งผ่านไปเพียง 1 วัน มีผู้ให้ความสนใจลงชื่อสนับสนุนแล้วมากกว่า 1,500 คน


"ปลากัดไทย" เป็นปลาที่มีเอกลักษณ์สีสันสดใสสวยงาม และมีคุณสมบัติพิเศษเป็น "ปลานักสู้" ถึงขนาดที่บริษัทผู้ผลิตมือถือยี่ห้อดังอย่างไอโฟน ยังได้นำภาพ "ปลากัดไทย" ไปใช้เป็นภาพหน้าจอมือถือรุ่นไอโฟน 6 อย่างเป็นทางการ


ปัจจุบัน "ปลากัดไทย" ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์และสีที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม อย่าง "เจ้าไตรรงค์" ซึ่งเป็นปลากัดสีธงชาติไทย แต่การเพาะพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์ส่วนมาก เป็นการทำกันเองของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง และคนทั่วไปที่รักปลากัด แต่ไม่มีหน่วยงานราชการเป็น "เจ้าภาพ" ที่แท้จริง

เมื่อปลายปีที่แล้ว กรมประมงหมายมั่นปั้นมือให้ "ปลากัดไทย" เป็นสัตว์น้ำประจำชาติ จึงรวบรวมเสนอที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณา แต่ก็ถูกตีตกโดยรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ คือ คุณวิษณุ เครืองาม โดยอ้างว่าปลากัดไม่มีความเกี่ยวข้องกับมิติเรื่อง "เอกลักษณ์ของชาติ" ซึ่งสวนทางกับแนวคิดของผู้ที่ศึกษาเรื่องปลากัดไทยอย่างสิ้นเชิง ขณะที่ข้อมูลการส่งออกปลากัดย้อนหลัง 5 ปีของไทย พบว่ามีมูลค่าการส่งออกสูงขึ้นเรื่อยๆจากราวๆ 35 ล้านบาทในปี 56 พุ่งขึ้นมาถึง 144 ล้านบาทในปี 60 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยนต่อปีถึง 59.97%

ข้อมูลจากฝั่งนักวิชาการที่ศึกษาเรื่องปลากัด มองว่า ประเทศไทยน่าจะตั้งองค์กรขึ้นมาดูแลและพัฒนาสายพันธุ์ปลากัด ตลอดจนสร้างมาตรฐานการประกวดอย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม เพราะสหรัฐอเมริกามีองค์กรลักษณะนี้แล้ว คือ คือ IBC หรือ อินเตอร์เนชั่นแนล เบ็ตต้า คองเกรส ฉะนั้นถ้าไทยยังละเลย เกรงว่าสุดท้ายไทยจะสูญเสียปลากัดซึ่งเป็นสมบัติของชาติ ไปเป็นของชาติอื่นเหมือน "แมวไทย" เนื่องจากไม่มีองค์กรรับผิดชอบดูแล ไม่มีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์และหลักเกณฑ์การประกวด ทั้งๆ ที่ชื่อปลากัดในภาษาอังกฤษ ก็บอกว่าเป็นของไทย คือ siamese fighting fish


คุณนพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติของประเทศจีน เสนอว่า รัฐบาลน่าจะผลักดันให้มีการจัดตั้ง "องค์กรปลากัดไทย" เป็น "องค์กรมหาชน" โดยบูรณาการผู้เชี่ยวชาญจากกรมประมง กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงปลากัด และนักวิชาการเข้ามาร่วมกันทำงาน หลังจากนั้นก็ใช้องค์กรนี้ประกาศมาตรฐานสายพันธุ์ปลากัด และจัดประกวดในระดับสากล แทนที่จะปล่อยให้ IBC ของสหรัฐทำอยู่เหมือนในปัจจุบัน

ทันตแพทย์ ประพุทธ์ ธีรฐิตยางกูร ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดปลาสวยงาม ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่าให้ฟังถึงสถานการณ์ปลากัดไทยว่า ปัจจุบันปลากัดไทยส่งออกไปขายทั่วโลก มีการจัดประกวดแทบทุกเดือน อย่างเดือนที่แล้วที่สวิตเซอร์แลนด์ และจะมีที่ออสเตรเลีย แม้แต่ประเทศในย่านเอเชีย ก็มีปลากัดไทยขาย ตลาดใหญ่ๆ ก็เช่น จีน อินเดีย หรือแม้แต่ดูไบ รวมไปถึงประเทศแถบยุโรป อย่างฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา ก็มีออร์เดอร์ปลากัดเยอะมาก

ในเวทีการประกวดระดับนานาชาติ อย่างเวทีใหญ่ที่สิงคโปร์ ปลาที่ชนะประกวด 80% เป็นปลากัดไทย แต่ชื่อคนไทยที่ส่งประกวดกลับมีน้อยมาก กลายเป็นชาวต่างชาติซื้อปลากัดไทยไปส่งประกวด หรือไปเพาะขยายพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันหลายๆ ประเทศเพาะพันธุ์ได้แล้ว ด้วยเทคโนโลยีการอนุบาลลูกปลาและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม ฉะนั้นในอนาคตอันใกล้ ปลากัดอาจถูกอ้างอิง หรือจดสิทธิบัตรเป็นของเขาไปเลย


ส่วนการประกวดในประเทศไทยนั้น หลายๆ ครั้งที่ผ่านมาพบว่าไม่ค่อยมีต่างชาติส่งปลากัดเข้าประกวด เพราะมาตรฐานที่กรมประมงประกาศเป็น "มาตรฐานปลากัดไทย" ยังไม่ละเอียดพอ หากเทียบกับมาตรฐานไอบีซี ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ลงละเอียดมาก ฉะนั้นสถานการณ์ ณ วันนี้ มาตรฐานปลากัดไทยยังไม่เพียงพอที่จะก้าวไปสู่อินเตอร์ ทั้งๆ ที่ปลาที่ชนะประกวดในเวทีใหญ่ๆ ทั่วโลก ล้วนเป็นสายพันธุ์ไทย

นี่เป็นประเด็นที่ "คนรักปลากัด" และผู้ที่ศึกษาเรื่องราวปลากัดไทยกำลังเป็นห่วงกัน โดยเฉพาะถ้าไม่มีองค์กรดูแลและพัฒนาสายพันธุ์ที่ชัดเจน เกรงว่าปลากัดไทยจะซ้ำรอยแมวไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก และถูกต่างประเทศจดสิทธิบัตรกลายเป็นแมวสายพันธุ์ของเขาไป เช่น วิเชียรมาศ ถูกจดสิทธิบัตรโดยอังกฤษ แมวไทยพันธุ์โกนจา ขาวมณี และมาเลศ ถูกจดสิทธิบัตรโดยสหรัฐ เรื่องนี้ล่าความจริงยังมีข้อมูลเชิงลึกมาให้ตามกันต่อในวันพรุ่งนี้