รถไฟฟ้าสายสีแดง "เลื่อนเปิด" ต.ค.63 รฟท.เผยยังติด 2 ปัญหา
รถไฟฟ้าสายสีแดงเลื่อนเปิดให้บริการ รฟท.เผยยังติด 2 ปัญหา เข้าพื้นที่สัญญา 2 ไม่ได้ และต้องเปลี่ยนแปลงระบบอาณัติสัญญาณในสัญญา 3 คาดเลื่อนเปิดให้บริการเป็น ต.ค.63
"ภาพรวมโครงการก็ถือว่าคืบหน้ามาก แม้จะติดขัดปัญหาในการก่อสร้างบางช่วง เช่น ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างทางเดินยกระดับลอยฟ้า (สกายวอล์ค) ในบางสถานีของสัญญา 2 รวมถึงเปลี่ยนแปลงระบบอาณัติสัญญาณในสัญญา 3 แต่ภาพรวมมั่นใจว่าจะเสร็จทันกำหนด โดยในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ จะลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าโครงการ พร้อมทั้งรวบรวมปัญหาทั้งหมดทั้งเรื่องการก่อสร้างเพื่อนำข้อมูลไปเสนอคณะกรรมการ ร.ฟ.ท.พิจารณา"
สำหรับโครงการก่อสร้างดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 สัญญา ประกอบไปด้วย สัญญาที่ 1 งานสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง เริ่มงานก่อสร้างเมื่อ 4 มี.ค.2556 ถึงปัจจุบัน โดยมีกลุ่มกิจการร่วมค้า SU (ซิโน-ไทย และยูนิค) เป็นผู้ก่อสร้าง มีผลงานกว่า 70.52% ล่าช้าจากแผนงานอยู่ประมาณ 1% และตามกำหนดจะต้องแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.62
สัญญาที่ 2 งานโครงสร้างทางวิ่งยกระดับและระดับพื้น งานสถานี 8 แห่ง และถนนเลียบทางรถไฟ โดยมี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ ซึ่งหลังเริ่มงานตอกเข็มเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2556 ปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่า 97.94% ซึ่งถือได้ว่ามีการดำเนินการที่ยังล่าช้าจากแผนเล็กน้อย
และสัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้า เครื่องกลและจัดหาตู้รถไฟฟ้า สำหรับช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต ซึ่งมี กลุ่มมิตซูบิชิ-ฮิตาชิ-สุมิโตโม จากญี่ปุ่นเป็นผู้ดำเนินการ โดยได้เริ่มงานเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2559 ล่าสุดมีความคืบหน้า 28.95% ยังล่าช้าจากแผน 25.63% ตามสัญญาจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.2563
นายวรวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า หากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงแล้วเสร็จจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนน จำนวน 8 จุด และระบบจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจากรังสิตสู่บางซื่อไม่น้อยกว่า 306,608 คนต่อวัน และเมื่อขยายโครงการจากบางซื่อไปชุมทางบ้านภาชีในอนาคต จะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารประมาณ 449,080 คนต่อวัน