ในอดีต มีการจับมือระหว่างผู้นำประเทศหลายครั้ง ที่เป็นสัญลักษณ์นำไปสู่การเปลี่ยนโลก หรือสถานการณ์พลิกผัน "คมชัดลึก"พาย้อนดูการจับมือเขย่าโลกในอดีต
อาราฟัต-ราบิน 2536
หลังการเจรจาลับหลายเดือนที่นอรเวย์ นายกรัฐมนตรียิตซ์ฮัค ราบินแห่งอิสราเอล และนายยัสเซอร์ อาราฟัตแห่งปาเลสไตน์ ยืนบนสนามหญ้า หน้าทำเนียบขาวเมื่อ 13 กันยายน 2536 เป็นสักขีพยานพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพออสโล
มีเหตุการณ์คาดไม่ถึงเมื่อบิล คลินตัน ประธานาธิบดีสหรัฐขณะนั้น ยืดแขนโอบผู้นำทั้งสองเข้ามาใกล้ชิด และอาราฟัตกับราบินจึงได้จับมือกัน
แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อปีถัดไป อดีตนายกรัฐมนตรีราบินถูกยิวขวาจัดที่ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงสันติภาพ ลอบสังหาร
โอบามา-คาสโตร 2556
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น สองฝ่ายรื้อฟื้นสัมพันธ์การทูตเต็มรูปแบบในเดือนกรกฎาคม 2558 ตามด้วยการเยียวยาความสัมพันธ์อย่างคาดไม่ถึง โอบามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกในรอบ 88 ปี ที่ไปเยือนคิวบาในปี 2559 ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร และสายการบินฟื้นเที่ยวบินตรงไปกรุงฮาวานาในปีเดียวกัน
ควีนเอลิซาเบธ แมคกินเนส 2555
สมเด็จพระราชนีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ ทรงจับมือกับมาร์ติน แมคกินเนส อดีตผู้บัญชาการทหารกองทัพกู้ชาติไอริช (ไออาร์เอ) ระหว่างเสด็จเยือนในปี 2555
ไออาร์เอต้องการแยกไอร์แลนด์เหนือออกจากอังกฤษและผนวกกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ การจับมือระหว่างองค์ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรกับแมคกินเนส ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์เหนือ ผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเจรจายุติการแบ่งแยกดินแดนนองเลือด เป็นการแสดงออกถึงความสมานฉันท์ และยากคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากอดีตการต่อสู้แยกดินแดนแนวบู๊ของแมคกกินเนส กับปฏิบัติการด้านความมั่นคงของอังกฤษ ยังคงเป็นปมโกรธแค้นของคนจำนวนมาก
ผู้นำจีน-ไต้หวัน 2558
การประชุมสุดยอดครั้งนั้นนำไปสู่การเปิดสายฮ็อตแลนไลน์ระหว่างกัน ส่วนการจับมือครั้งนั้น ได้รับการบันทึกเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง แต่ไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะหลังจากเปลี่ยนผู้นำไต้หวัน
เรแกน-กอร์บาชอฟ 2528
การจับมือระหว่างอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน แห่งสหรัฐ กับ มิคฮาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำสหภาพโซเวียต เพิ่มน้ำหนักให้กับการประชุมครั้งแรกระหว่างสหรัฐกับผู้นำสหภาพโซเวียต ในรอบ 6 ปีที่นครเจนีวา เดิมวางแผนจัดประชุม 15 นาที แต่ปรากฎว่าเรแกนกับกอร์บาชอฟ คุยกันอย่างออกรสนานกว่าที่คาด ทั้งต่อมา ยังคุยกันแบบไม่ใช้ล่าม แต่ถึงแม้การประชุมสุดยอดจบลงด้วยข้อตกลงว่าสองฝ่ายจะลดหัวรบนิวเคลียร์ลง 50% แต่ต่างฝ่ายยังขัดแย้งกันเรื่องโครงการสตาร์วอส์ของสหรัฐ
สำหรับการจับมือเขย่าโลกครั้งต่อไป หากไม่มีอะไรพลิกผัน ก็น่าจะเป็นมือของคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนืออีกครั้ง แต่คราวนี้จะเป็นการจับมือกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกันคนที่ 41