
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูสะดือกลางกว๊านพะเยา ร่วมกับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน 17 ชุมชนรอบกว๊านพะเยา ร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์ปลาในการทำบ้านให้ปลาอยู่อาศัย โดยนำเอากิ่งไม้บรรทุกเรือพายนำมาปล่อยทิ้งไว้ ตรงสะดือ หรือจุดศูนย์กลางของกว๊านพะเยา ที่มีความลึก ปลาอยู่อาศัย เป็นจำนวนมาก ซึ่งกว๊านพะเยามีเนื้อที่ 12,831 ไร่ เป็นแหล่งน้ำจืด แหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด กว่า 48 สายพันธุ์
กว๊านพะเยามีสะดือ และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ก่อนที่กรมประมงทำการสร้างประตูระบายน้ำ กั้นลำน้ำแม่อิง เมื่อปี 2482 จนเป็นกว๊านพะเยา จนถึงปัจจุบัน และในอดีตบริเวณสะดือของกว๊านพะเยานั้นเป็นที่พักผ่อนและพักอาศัยของผู้ที่สัญจรผ่านไปมาริมลำน้ำแม่อิง เมื่อเป็นกว๊านพะเยาชาวประมงพื้นบ้าน ต่างพากันออกหาปลามากินและขาย และร่วมกันอนุรักษ์สร้างบ้านให้ปลา บริเวณสะดือกว๊านพะเยา เป็นที่อยู่อาศัยของปลา และเป็นที่ขยายพันธุ์ของปลา เพื่อให้ชาวประมงได้จับมาขายและกิน
นายสมศักดิ์ เทพตุ่น ประธานชมรมประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า ได้รวมกลุ่มกับชาวประมงพื้นบ้าน 17 ตำบลรอบกว๊านพะเยาเพื่อนำกิ่งไม้และเศษไม้แห้งเพื่อเป็นอาหารและเป็นที่อยู่ของปลาตรงจุดตรงสะดือกลางกว๊านพะเยาซึ่งเป็นจุดรวมใจของพี่น้องชาวประมงทั้ง 17 ตำบลรอบกว๊านพะเยา กว๊านพะเยามีประวัติที่ยาวนานในอดีตและสะดือกว๊านพะยาถือว่าเป็นจุดที่ลึกที่สุดถ้าเดินทางไปจะมีความรู้สึกเหมือนมิติหนึ่งและลึกลับที่สุดมันจะเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ที่นั่น เป็นจุดลึกเหมือนเป็นแอ่งกระทะลึกเป็นที่อยู่ของปลาตัวใหญ่ๆ
ดังนั้นตรงที่สะดือกว๊านพะเยาเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครกล้าหาปลาตรงที่นั้น จึงใช้จุดนี้เป็นจุดทำบ้านปลาและจุดรวมของเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลาทั้ง 17 ตำบลรอบกว๊านซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรก ซึ่ง คนพะเยายังไม่รู้จักคำว่า สะดือกว๊าน และวันนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์ได้นำธงมาทำสัญลักษณ์ของแต่ละชุมชนเป็น เป็นธงสีเขียว และมีธงใหญ่เป็นจุดบอกว่าตรงนั้นเป็นจุดอนุรักษ์พันธุ์ปลาเพื่อและจุดบอกสะดือกว๊านพะเยาจะให้ทุกคน ให้รู้ว่าเป็นบ้านปลาเพื่อให้ทุกคนร่วมกันอนุรักษ์และดูแลเพื่อให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาเข้าไปอยู่และแพร่พันธุ์ ไว้ให้ลูกให้หลานได้กิน
จากการทำบ้านให้ปลาในกว๊านพะเยามีกลุ่มประมงพื้นบ้าน 17 ตำบล ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำ และมีเครือข่ายประชาชนมหาวิทยาลัย พะเยา ร่วมกันผลักดันและปลูกจิตรสำนึกให้คนพะเยาได้ร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์ปลาในแหล่งน้ำกว๊านพะเยา ในครั้งนี้