ข้อจำกัด "พี่ใหญ่" ล็อคคำตอบ "นาฬิกาเพื่อน"

ทีนี้ปัญหาของ พลเอกประวิตร ก็คือ ภาพที่สวมนาฬิกา ส่วนมากก็เป็นภาพขณะปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตั้งแต่ปี 51 เป็นต้นมา พลเอกประวิตร นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 51 ในรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งถึงปี 54 ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน 3 ครั้ง คือ ปี 51 ตอนเข้าดำรงตำแหน่ง ปี 54 ตอนพ้นจากตำแหน่ง และ ปี 55 ตอนพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี จากนั้น พลเอกประวิตร ยังเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนายกฯลุงตู่อีก ในปี 57 ก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินอีกรอบ รวมแล้วยื่น 4 ครั้ง เกือบจะเป็นปีเว้นปี หรือปีเว้น 2 ปีด้วยซ้ำ ฉะนั้น พลเอกประวิตร จะอ้างว่านาฬิกาเรือนไหนเป็นของตนเองไม่ได้เลย เพราะไม่เคยแสดงในบัญชีทรัพย์สินเลย เหตุนี้เอง ทางออกเดียวของ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" ก็คือบอกว่ายืมเพื่อนมาทั้งหมด ซึ่งก็อาจจะเป็นจริงตามที่ท่านพูดก็ได้ แต่สังคมจะเชื่อหรือไม่ เป็นเรื่องนะ

ส่วนเรื่องแหวนเพชร นอกจากเหตุผลที่เล่าให้ฟังเมื่อวาน คือ เป็นของพ่อที่ยกให้แม่ และแม่ก็ให้มาใส่ ซึ่งแม่ยังมีชีวิตอยู่ ผลก็คือยังไม่เป็นทรัพย์มรดกที่ต้องแจ้งในบัญชีทรัพย์สิน นอกจากเหตุผลนี้แล้ว พลเอกประวิตร ยังชี้แจงด้วยว่า แหวนเพชรเม็ดโต ระยิบระยับแทงตานี้ ราคาไม่ถึง 2 แสนบาท จึงไม่ต้องแสดงในบัญชีทรัพย์สินด้วย

นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับ "แหวนเพชรแทงตา นาฬิกาสุดหรู" ของ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" ที่เป็นข่าวดังข้ามปี แต่เรื่องนี้จะจบเหมือนที่เจ้าตัวพูดหรือเปล่า ต้องรอดูแอคชั่นของ ป.ป.ช.ต่อไป แต่ดูจากแอคชั่นการแถลงข่าวของเลขาธิการ ป.ป.ช.เมื่อวานแล้ว