นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับนายปีเตอร์ เฮมอนด์ อัครราชทูตที่ปรึกษา และคณะ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ณ ห้องประชุมปลัดกระทรวงแรงงาน ชั้น ๗ อาคารกระทรวงแรงงาน ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ต่อการแก้ไขปัญหาแรงงานด้านแรงงาน เพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งในสัปดาห์หน้าสภาสหรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่มาติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวของไทย แรงงานประมง และแรงงานบังคับ
ปลัดกระทรวงแรงงงาน กล่าวว่า รัฐบาลไทยมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งภายหลังวันที่ 31 มีนาคม 2561 แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายจะไม่มีในประเทศไทย โดยทุกคนจะได้รับการเข้าสู่ระบบการพิสูจน์ตัวตน และได้รับสัญชาติจากประเทศต้นทางซึ่งได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เมื่อแรงงานต่างด้าวได้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องแล้วก็จะสามารถให้ความคุ้มครองตามกฎหมายไทยได้ รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศด้วย เพื่อไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิ ขณะเดียวกันยังได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองแรงงานประมง
เนื่องจากสภาพการทำงานในปัจจุบันค่อนข้างล่อแหลม ซึ่งกระทรวงแรงงานจะให้การดูแลแรงงานอย่างดีที่สุด อาทิ ให้มีการทำสัญญาการจ้างงาน การจ่ายค่าจ้างแรงงานประมงผ่านบัญชีธนาคาร รวมทั้งกำหนดสวัสดิการบนเรือที่ควรจะได้รับ เป็นต้น ทั้งนี้ การดำเนินการต่างๆ ของรัฐบาลไทย ไม่เพียงแค่กระทรวงแรงงานหน่วยเดียวยังมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกัน ได้แก่ กรมประมง กรมเจ้าท่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นความพยายามที่ต้องการปลดTier เพื่อลดข้อจำกัดด้านสิทธิในการส่งออกสินค้าประมงของไทยให้ราบรื่นและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
กระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน โดยมุ่งเน้นขับเคลื่อนและบูรณาการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งในด้านการบังคับใช้นั้นได้บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัดโดยให้น้ำหนักกับการตรวจแรงงานกลุ่มเสี่ยงในรูปแบบทีมสหวิชาชีพ นอกจากนี้ ยังได้ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๖๐ โดยเน้นการจัดระเบียบ ป้องกัน เยียวยา บังคับใช้กฎหมาย
ให้ความคุ้มครอง อำนวยความสะดวกนายจ้างและแรงงาน ส่งเสริมความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการออกกฎหมายลำดับรอง ๑๐ ฉบับ