โดย พ.ต.ต.สุริยา รองอธิบดี ดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานที่มีอยู่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าบริษัทแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่อุปโลกตัวของเจ้าเทพโยธิน มหาทุน ขึ้นมา รวมถึงเป็นที่เก็บเอกสารเกี่ยวกับการลงทุนสัมปทานโครงการก่อสร้างของรัฐมอญ ในประเทศเมียนมา ขณะที่การตรวจค้นในบริษัท พบเอกสารที่อ้างว่าจะทำโครงการในรัฐมอญซึ่งสอดคล้องกับเอกสารที่ได้จาก บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป ทั้งสิ้น 78 โครงการ โดยดีเอสไอจะนำเอกสารที่ได้ ไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีความเชื่อมโยงจริงหรือไม่ รวมถึงจะสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดทุกคนในเครือข่ายนี้ต่อไป นอกจากนี้เอกสาร ดังกล่าวก็ยังพบสมุดที่จดบันทึกรายการจ่ายเงินในการเคลียร์คดีต่างๆ ที่บริษัทแห่งนี้ ได้จ่ายให้กับหน่วยงานภาครัฐเป็นรายเดือนเพื่อยุติธรรมการดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันอีกด้วย
ขณะที่ นายหงสราช รอดเรือง เจ้าของบริษัทเอสวี ลิสซิ่ง จำกัดและบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้มีส่วนในการหลอกลวงให้เข้ามาร่วมลงทุนสัมปทานโครงการก่อสร้างฯ แต่ตัวของเจ้าเทพโยธิน มหาทุน ได้เข้ามาติดต่อกับตนเองโดยตรง พร้อมบอกว่าสามารถต่อรองกับรัฐบาลเมียนมาในการก่อสร้างได้ ซึ่งเราก็ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลแล้วก็พบว่าเจ้าเทพโยธิน มหาทุน มาแอบอ้างจึงได้ทำการยกเลิกสัญญาไป โดยขอย้ำว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น