วันนี้ในอดีต...ระเบิด ‘ศาลท้าวมหาพรหม’

วันนี้ในอดีต 17 ส.ค. 2558 เวลา 18.50 น. ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ฝั่งศาลท้าวมหาพรหมโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณมีผู้เสียชีวิต 20 คนโดยผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นชาวไทย 6 ราย ชาวต่างชาติ 14 ราย ประกอบด้วยชาวจีน 5 ราย มาเลเซีย 5 ราย ฮ่องกง 2 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย และสิงคโปร์ 1 รายบาดเจ็บ 130 คน รถยนต์ รถจักรยานยนต์เสียหายหลายสิบคัน โดยแรงระเบิดยังทำให้อาคารบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย กระจกแตกหลายอาคาร โดยระเบิดที่คนร้ายนำมาก่อเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบทีเอ็นที รัศมีการระเบิด คาดว่ามีอำนาจทำลายกว่า 40 เมตร

เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ชิ้นส่วนเป้, ชิ้นส่วนลูกเหล็กกลม และชิ้นส่วนของท่อเหล็ก ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมากมีพยานและกล้องวงจรปิดยืนยันภาพคนร้าย เป็นชายใส่เสื้อสีเหลือง

19 ส.ค. 2558 ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับชายเสื้อเหลืองไม่ทราบชื่อ ที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ บริเวณศาลท้าวมหาพรหมก่อนเกิดเหตุระเบิด และตามภาพสเก๊ตช์ของกองทะเบียนประวัติ ที่มีตำหนิรูปพรรณใบหน้ารูปไข่ รูปร่างสูง และผิวขาว

ต่อมา 29 ส.ค. 2558ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาชื่อบิลาล เติร์ก มูฮัมเหม็ด (BILAL TURK MUHAMMED) หรือนายอาเดม คาราดัก ที่พูลอนันต์อพาร์ทเมนท์ เขตหนองจอกพบวัสดุของกลางในห้องพักจำนวนมาก ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิด ฝักแคระเบิด ท่อแป๊บน้ำ ลูกเหล็กกลมที่บรรจุไว้ในถุงพลาสติก สารเคมีทีเอทีพี ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการประกอบระเบิด เสื้อผ้าที่สวมใส่

7 ก.ย. 2558 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาอีกคนชื่อ นายเมียไรลี ยูซุฟู (MEI RAI LI YU SU FU)

สำหรับความคืบหน้าคดีนี้ อัยการได้ยื่นฟ้องบิลาล เติร์ก มูฮัมเหม็ดหรือนายอาเดม คาราดักและนายเมียไรลี ยูซูฟู เป็นจำเลยต่อศาลทหารกรุงเทพ หลายข้อหา ได้แก่ ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนออกใบอนญาตให้ไม่ได้โดยฝ่าฝืนกฎหมายและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง,ร่วมกันพยายามทำให้เกิดระเบิด ,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รับอันตรายสาหัสแก่กายและทรัพย์ , ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ,ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ในส่วนของนายบิลาล ยังถูกฟ้องในข้อหาเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยและให้จำเลยทั้งสองชดใช้เงินทั้งหมดราว 1,500,000บาท

ทั้งนี้คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นศาล โดยทั้งสองคนถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี มทบ.11 ถ.พระราม 5 กรุงเทพฯ