พร้อมของกลาง กล่องพัสดุไปรษณีย์ 50 กล่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และ เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ ทั้งกระสุนปืนไรเฟิล และ.22 .45 .32 7.65 .223 .357 รวม 2,775 นัด โดยติดตามจับกุมได้ที่ ห้อง 510 แกรนด์จรัญอพาร์ทเม้น ชั้น 5 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม.พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลจับกุม นายวายุทธ ทำยา ผู้ต้องหาคดียาเสพติดและอาวุธปืน ซอยเพิ่มสิน 24/1 ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รวมทั้งพบกล่องพัสดุไปรษณีย์ จึงสอบสวนเพิ่มเติมมีการรับว่าสั่งซื้อกระสุนปืนทางออนไลน์ จึงขยายผลพบว่าส่งมาจาก ไปรษณีย์เคอรี่ สาขาปิ่นเกล้า ตำรวจจึงทำทีมาเฝ้าที่ไปรษณีย์ดังกล่าว ก่อนพบรถจยย.รับจ้างมาส่ง พัสดุ จำนวน 17 กล่อง เมื่อตรวจสอบพบว่า กล่องพัสดุ มีชื่อผู้ส่งเป็นชื่อเดียวกันที่ส่งให้ นายวายุทธ แต่ไม่สามารถเปิดได้ตามกฎของไปรษณีย์
จึงสอบสวนรถจยย.รับจ้าง ให้การว่าได้มารับ พัสดุ จากอพาร์ทเม้นท์ภายในซ.จรัญสนิทวงศ์ 35 จึงเฝ้าและไล่กล้องวงจรปิด พบผู้ชายถือกล่องพัสดุไปให้ วิน จยย.รับจ้างนำไปส่ง ตำรวจจึงวางเเผนเฝ้าอยู่ละเเวกดังกล่าว 2 วัน กระทั่งช่วงกลางดึก พบ ผู้ชาย เข้ามาใน อพาร์ทเม้น จึงขอหมายศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ ค.87/2560 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 เข้าตรวจค้นจนพบของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นพนักงานขายปืน ย่านวังบูรพา โดยให้การว่าได้ติดต่อคนกลางผ่านทางแอพพลิชั่นไลน์ชื่อ ธนาวิน และ ชนิพล ให้ตนเป็นคนจัดหาเครื่องกระสุนปืนส่งให้ลูกค้า และได้ค่าตอบแทนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อกล่องประมาณ 200 -300 บาท เช่น กล่องละ 1,100 บาทแต่ขาย 1,300 บาท ทำมาประมาณ 1 เดือน
ด้าน น.ส.กล้วย กล่าวว่า ตนและ นายหรั่ง มีลูกชายอายุ 7 ขวบป่วยเป็นโรคออทิสติก จึงต้องหาเงินเพิ่มเพื่อพาไปหาหมอ 4 ครั้ง ใช้ค่ารักษา 11,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเงินที่ได้จากค่าเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวก็นำไปรักษาลูก ก่อนมาถูกจับกุม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือ นำเข้าซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า หรือ จำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต