svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"พล.ต.ต.ปวีณ" ลี้ภัยหลังปิดคดีค้ามนุษย์

19 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ซึ่งน่าจะเป็นคดีใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิด "แผนกคดีค้ามนุษย์" ในศาลอาญา เพราะมีผู้ต้องหามากถึง 153 คน จับกุมและถูกฟ้องเป็นจำเลยแล้วกว่า ร้อย ทั้งนักธุรกิจ นักการเมืองท้องถิ่นในภาคใต้ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ และนายทหารยศสูงถึง "พลโท" ถือเป็นคดีตัวอย่าง ที่รัฐบาลไทยใช้ยืนยันกับสหรัฐอเมริกาว่า มีความจริงจัง จริงใจในการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์

แต่คดีสำคัญนี้ กลับมีร่องรอยของความด่างพร้อย เมื่อหัวหน้าชุดสอบสวน พลตำรวจตรี ปวีณ พงษ์สิรินทร์ ออกมาให้ข่าวเปิดโปงการถูกข่มขู่คุกคามจากผู้มีอิทธิพลที่ได้รับผลกระทบทางคดี ที่สำคัญคือ ผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับไม่ดูแล โยกย้ายเขาแบบ "ย้ายระนาบ" ไปอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไปเป็นรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
พลตำรวจตรี ปวีณ เคยเปิดใจว่า การย้ายเขาไปอยู่ชายแดนใต้ เพราะมีขบวนการกลั่นแกล้ง เพราะไม่มีใครรับประกันได้ ว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์ถูกลอบวางระเบิดสังหารเช่นเดียวกับ พลตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญาเพราะในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมีเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์อยู่เป็นจำนวนมาก
ตลอดช่วงของการทำคดี เขาถูกข่มขู่คุกคาม ทั้งจากผู้มีอิทธิพลและคนมีสี เพราะมีการออกหมายจับนายทหารยศพลโท และนายทหารสัญญาบัตรอีก 4 นาย มีการข่มขู่พยานไม่ให้เข้าให้การ ขณะที่การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจชั้นนายพลในปีนั้นก็ไม่มีตำรวจในชุดสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่ดีขึ้นแม้แต่คนเดียว
พลตำรวจตรี ปวีณ ได้ทำเรื่องขอให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งโยกย้าย ประจำปี 2558 แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง จึงตัดสินใจยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนปีเดียวกัน
การถอดใจลาออกของ พลตำรวจตรี ปวีณ ตกเป็นข่าวครึกโครม เพราะ"ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ต้องพ่ายแพ้อิทธิพลของขบวนการค้ามนุษย์ //พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรียุติธรรมในขณะนั้น ถึงกับต้องเชิญ พลตำรวจตรี ปวีณ เข้าพบ/ ขณะที่พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ก็เปลี่ยนไป ว่าจะทบทวนใบลาออก แต่ที่สุดก็มีการเซ็นต์ใบลาออก ทำให้ชีวิตราชการของ พลตำรวจตรี ปวีณ สิ้นสุดลง ทั้งๆ ที่ยังเหลืออายุราชการอีกถึง 3 ปี
หลังจากนั้น พลตำรวจตรี ปวีณ ก็หายหน้าไปจากวงการสีกากี มีข่าวว่าเขาและครอบครัวเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย พร้อมทำเรื่องขอลี้ภัย ปัจจุบันได้สถานะผู้ลี้ภัยแล้ว แต่ยังไม่ได้สัญชาติออสเตรเลีย
สำหรับ พลตำรวจตรี ปวีณ ได้รับการยอมรับว่าเป็น "นายตำรวจน้ำดี" และเป็น "ตำรวจตงฉิน" เป็นคนกระทุ่มแบน จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 35 รุ่นเดียวกับ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ตลอดชีวิตราชการได้รับรางวัลมากมาย โดยเฉพาะรางวัลพนักงานสอบสวนดีเด่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ปีซ้อน ส่วนผลงานด้านการสอบสวน เคยคลี่คลายคดีสำคัญๆ มากมาย เช่น คดี นายศักดิ์ ปากรอ ฆ่ายกครัว 5 ศพ ที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา คดีฆาตกรรมแหม่มสวีเดน ที่จังหวัดภูเก็ต คดีทุจริตก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง แฟลตตำรวจ 163 แห่ง และคดีสุดท้ายคือคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ก่อนจบชีวิตราชการก่อนเกษียณถึง 3 ปี

logoline