"กรมบังคับคดี" แนะทางช่วยเหยื่อโชกุน

อธิบดีกรมบังคับคดี รื่นวดี สุวรรณมงคล  บอกกรณี ซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน จัดโปรโมชั่นลวงให้ซื้ออาหารเสริม แลกทัวร์ประเทศญี่ปุ่น ก่อนลอยแพผู้เสียหายกว่า 2,000 รายว่า เป็น คดีแพ่ง ดังนั้นกระบวนการการบังคับคดี และเฉลี่ยคืนทรัพย์ผู้เสียหาย ต้องรอให้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดก่อน ระหว่างนี้ ผู้เสียหายจะต้องรวมกลุ่มไปแจ้งความดำเนินคดี เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสืบสวนรวบรวมหลักฐาน ส่งให้อัยการเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง หลังจากนั้นจะต้องรอจนศาลมีคำพิพากษาของคดีออกมาว่า จะให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเท่าไหร่
ส่วนการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายนั้น จะต้องเฉลี่ยคืนให้ได้ทั้งหมดก่อน ซึ่งอาจจะไม่ครบตามจำนวนทั้งหมด และหากจำเลยยังไม่มีทรัพย์มาชดใช้  ทางกรมบังคับคดีก็จะดำเนินการฟ้องล้มละลาย โดยขณะนี้มีผู้เสียหายในคดี ประมาณ 403 คน มูลค่าความเสีบหายประมาณ 15 ล้าน แต่ทรัพย์ที่ยึดผู้ต้องมามาได้ขณะนี้มีเพียง 12 ล้านบาท 
ที่ผ่านมา กรมบังคับคดีได้ให้ความร่วมมือกับกับตำรวจสอบสวนกลางและกองบังคับการกองปราบปราม เพราะคดีกังกล่าวนั้นเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเรื่องกับคดีอาญา และในวันที่ 28 เมษายนนี้ ที่หองบังคับการกองปราบปราม 
นอกจากนี้อธิบดีกรมบังคับคดี ยังเปิดเผยความคืบหน้ากรณีแชร์ลูกโซ่อยู่ฟันว่า ล่าสุดทางกรมได้รับการประสานจากพลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสบ.10 ให้เข้าไปดำเนินการบังคับคดี และเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหาย หลังจากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้นับเป็นคดีแรก ที่กรมได้ทำงานบูรณาการร่วมกับตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ
จุดอ่อนของผู้เสียหายส่วนใหญ่คือ ไม่รู้วิธีการที่จะขอรับเงินคืน ทำให้คดีหมดอายุความ ในคดีลักษณะนี้ เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์หรือเจ้าหนี้ จะต้องไปดำเนินการของรับชำระเงินภายในระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลพิพากษา ไม่เช่นนั้นคดีจะหมดอายุความ และหมดสิทธิ์ได้รับเงิน