svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา" พระคาถาโบราณ จาก สมเด็จสังฆราช องค์ที่ 9 ถึงองค์ที่ 20

จากกรณี เมื่อวานนี้และวันนี้ (13-14 ก.พ.) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ฯ เปิดให้ประชาชนเข้าเฝ้ากราบถวายสักการะ แสดงมุทิตาจิตต่อ สมเด็จพระสังฆราช ที่พระอุโบสถด้วยพลังศรัทธา ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางมาจนแน่นวัด สมเด็จพระสังฆราช ทรงย้ำให้ประชาชนคนไทย รู้รักสามัคคี โดยฝากภาษิตธรรม "สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา"

โดย สมเด็จพระสังฆราช ได้ให้โอวาทแก่ประชาชน ที่มาเฝ้าถวายสักการะ ที่วัดราชบพิตรฯ ใจความตอนหนึ่งว่า ขอให้ท่านรักษาความดี ยึดหลักธรรมของ พระพุทธองค์ 3 ประการคือ ศีล สมาธิ ปัญญา

"สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา"
พระคาถาโบราณ จาก สมเด็จสังฆราช องค์ที่ 9 ถึงองค์ที่ 20

พร้อมกันนี้ สมเด็จพระสังฆราช ทรงขอให้ประชาชนชาวไทย "สามัคคี" โดยฝากธรรมภาษิต ซึ่ง สมเด็จพระสังฆราช บอกว่า เป็นภาษิตธรรม ในรัชสมัย รัชกาลที่ ๕ เป็นภาษาบาลีที่ว่า "สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา" ซึ่งแปลความว่า "ความพร้อมเพรียงแห่งชน ผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ"

ขณะเดียวกัน วันนี้ (14 ก.พ.) 16.00 น.ทางวัดราชบพิธฯ  สมเด็จพระสังฆราช ทรงประทานโอวาทอีก ใจความว่า ขออำนวยพรอุบาสก อุบาสิกาที่มาร่วมประชุมวัดราชบพิธฯ อนุโมทนา มีจิตมุทิตาแสดงความปิติ ยินดีวาระที่ได้สถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราช ท่านทั้งหลายมาตากแดด ตากลม ก็รู้สึกว่ามีขันติ ความอดทนอย่างมาก นั่นเพราะศรัทธา ความเชื่อความ เลื่อมใสศรัทธาพระรัตนตรัย เป็นที่น่าอนุโมทนาสาธุการยิ่งนัก และการที่เรามีสมานฉันท์ ร่วมกันบำเพ็ญกุศลมุทิตาแก่อาตมา และในฐานะที่ท่านทั้งหลายมาวัดราชบพิธฯ บ่อยๆขอฝากให้นำเอาภาษิตธรรม ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 นั้นคือ "สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิ สาธิกา แปลว่า ความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ" ขอให้รักษาคำนี้ไว้ ขอให้จดจำ ยึดถือและนำไปปฏิบัติ และขออำนวยพรให้สาธุชนทุกคนประสบแต่ความสุขความเจริญ ซึ่งพรนี้จะสำเร็จได้ก็ด้วยความสามัคคี

จากการสืบค้นของเนชั่นทีวี ภาษิตธรรมดังกล่าวมีมาตั้งแต่รัชสมัย รัชกาลที่ ๕ เป็นคำภาษิตที่ถูกจารึกไว้บนตราแผ่นดิน ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ (ซึ่งยุคนั้น ชาติไทย กำลังอยู่ในช่วงที่ต่างชาติกำลังเข้ามาล่าเมืองขึ้น)

ภาษิต หรือ พระคาถา "สัพเพสัง สังฆะ ภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาริกา" นี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว) สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผูกขึ้นเป็นประจำตราแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕

"สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา"
พระคาถาโบราณ จาก สมเด็จสังฆราช องค์ที่ 9 ถึงองค์ที่ 20



สำหรับ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว) สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อปี ๒๔๓๖ ๒๔๔๒

โดยสมัยที่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว) สมเด็จพระสังฆราช ยังเป็น "สามเณรนาคหลวง" ท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะเป็นผู้สามารถสอบเปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร และเป็นรูปแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น สามเณรอัจฉริยะ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ล่วงมาบัดนี้กว่า ๑๐๐ ปี ถึง พ.ศ. ๒๕๖๐ ยุคที่ประเทศชาติต้องการความรัก ความสามัคคี ปรองดอง ภาษิตธรรมโบราณของ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) องค์ที่ 9 ที่ว่า "สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา" จึงถือเป็น พระคาถาศักดิ์สิทธิ์

"สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา"
พระคาถาโบราณ จาก สมเด็จสังฆราช องค์ที่ 9 ถึงองค์ที่ 20



และนับเป็นมงคลยิ่งที่ ปฐมบรมโอวาท..สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวานนี้ (๑๓ ก.พ.) พระองค์ทรงหยิบยกพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ "สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา" โดยขอให้ ประชาชนชาวไทย ยึดมั่นในความสามัคคี

"ความพร้อมเพรียงแห่งชน ผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ"