10 ชนเผ่าภาคเหนือ 1,741 คน ร้อยดวงใจเข้าถวายสักการะในหลวงรัชกาลที่ 9
ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระธาตุ เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 14 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบรรดาชาวเขาที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณภายใต้โครงการหลวงจาก 5 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ลำพูน จ.แม่ฮ่องสอน และจ.พะเยา รวม 10 ชนเผ่า พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิโครงการหลวง รวมทั้งหมด 1,741 คน พร้อมใจกันเดินทางถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาประสาท ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้พระราชทาน"โครงการหลวง"จนทำให้มีอาชีพมั่นคง มีรายได้จากการปลูกพืชเขตหนาวทดแทนการปลูกฝิ่น
โดยกลุ่มชาวเขาได้นำพืชผลจากแปลงของตนเอง ที่เป็นผลจากการส่งเสริมโครงการหลวงมาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เพื่อที่ทางสำนักพระราชวังจะได้นำไปทำเป็นอาหารให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้าถวายสักการะ ทั้งนี้บางรายได้นำพระบรมฉายาลักษณ์มาร่วมในพิธีอีกด้วย ก่อนทางสำนักพระราชวังจะปล่อยให้เข้าถวายสักการะได้ในเวลา ประมาณ 05.00 น.ที่ผ่านมา
ด้าน นายธวัชชัย เลาจาง อายุ 44 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง กล่าวว่า ตนเดินทางจากจ.เชียงใหม่ตั้งแต่ 08.00 น. ของเมื่อวาน มาถึง กทม. เวลาประมาณ 01.00 น. ซึ่งรู้สึกภาคภูมิใจที่จะได้เข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ทั้งนี้เมื่อปี พ.ศ.2523 พระองค์ท่านเคยเสด็จไปที่จ.เชียงใหม่ และได้พระราชทานลูกฟุตบอล ให้กับโรงเรียนมิตรมวลชนเชียงใหม่ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ผ่านมาตนได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ
ส่วน น.ส.ขวัญฤทัย ส่างอ่อน อายุ 30 ปี ชาวเขาเผ่าดาราอั้ง กล่าวว่า ตนได้เดินทางพร้อมลูกสาวจาก จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ แล้วมาถึง กทม.เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตนรู้สึกภูมิใจและตื้นตันใจ เพราะไม่คิดว่าจะมาถึงที่นี่ได้ เมื่ออดีตที่ผ่านมาคุณตาของตนเคยรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 และยังเป็นคนไข้ของพระราชินี ทุกวันนี้ตนได้น้อมนำคำสอนอยู่อย่างพอเพียง ปลูกผัก ผลไม้ ใบชา ทำงานอยู่กับบ้านพออยู่พอกินไม่ได้ไปทำงานในเมืองแต่อย่างใด ก็เลี้ยงชีพได้
