นายภานุพงษ์ สารภาพว่า ติดยาบ้าอย่างงอมแงม ต้องหาซื้อมาเสพเป็นประจำ ต่อมาได้เข้าร่วมกลุ่มขายยาบ้ารายพิเศษทำให้ซื้อยาบ้าได้ในราคาลดลง จากเม็ดละ300บาท เหลือ 170 บาท จึงซื้อมาจำนวนมากขึ้น จากครั้งละ10เม็ด เป็น20เม็ด เพื่อหวังกำไรจากการขายต่อให้เพื่อนๆ โดยใช้รถตู้โดยสาร ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว เลขทะเบียน ฮพ8967กรุงเทพ ได้ดัดแปลงเป็นรถพยาบาลฉุกเฉิน ด้านในมีอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย ขับไปรับยาบ้าจากเครือข่าย เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทำสำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง จนกระทั่งถูกล่อซื้อจับกุมได้
ต่อมาชุดจับกุมได้ให้ นายภานุพงษ์ ฯ ติดต่อขอซื้อยาจากนายจิระพงศ์ หรือโต จำนวน40เม็ด นัดส่งของที่ถนนหมู่บ้านในเขต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยให้นายภานุพงษ์ ขับรถกู้ชีพ ไปรับของ นายจิระพงศ์ นำยาบ้ามาส่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมได้พร้อมของกลางรวม 50 เม็ด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมต่อไป
ด้านนายสุเทพ ณัฐกานต์กนก หัวหน้ากู้ภัยสว่างเมตตาโคราช กล่าวว่า มูลนิธิสว่างเมตตานครราชสีมา มีคำสั่งปลดนายภานุพงษ์ ฯ ออกจากการเป็นอาสาสมัครกู้ชีพ มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมสั่งห้ามเข้ามาเกี่ยวข้องกิจกรรมขององค์กร เนื่องจากมีพฤติการณ์ไม่เรียบร้อย แต่นายภานุพงษ์ ฯ ยังติดต่อกับกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นอาสาสมัครด้วยกัน ส่วนรถยนต์ของกลางที่ถูกจับกุม เป็นรถกู้ชีพของญาติ จาก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งนายภาณุพงษ์ ได้นำมาใช้ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และลักลอบติดสติกเกอร์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายโลโก้ของมูลนิธิ ฯ ทั้งๆที่ไม่ใช้รถยนต์ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการแต่อย่างใด ขณะนี้กำลังเตรียมแจ้งความดำเนินคดีข้อกล่าวหานำสัญลักษณ์ขององค์กรไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนมาตรการป้องกันยาเสพติด ทุกรอบ 3 เดือน ได้นำพนักงานประจำและอาสาสมัครกลุ่มเสี่ยง ไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ จึงขอชี้แจงขอความเป็นธรรมด้วย