ยายวันเพ็ญ กล่าวว่าหลังจากบ้านได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติดินโคลนถล่มเมื่อปี 2549 ทั้งสวนทุเรียน ลางสาด เสียหาย จึงตัดสินใจปรับที่ว่างบริเวณบ้านที่ดินโคลนทับถมด้วยซากปรักพัง ประมาณ 1 งาน มาปลูกผักปลอดสารพิษไว้รับประทานในครอบครัว และยึดแนวทางพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่อย่างพอเพียง โดยตากระสัน มีแนวคิดปลูกผักสวนครัว พืชผักทุกชนิดที่รับประทานได้ในวง ด้วยการนำปูนซีเมนต์มาหล่อเพื่อทำวง หรือท่อซีเมนต์เอง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร และ 1.50 เมตร โดยฝังลงพื้นดิน 15 นิ้ว และโผล่พ้นดิน 15 นิ้ว ตอนนี้มีทั้งหมดกว่า 20 บ่อ สามารถปลูกพืชผักได้ตลอดทั้งปี และยังมีวงเพาะกล้าพันธุ์ บางครั้งเพื่อนบ้านสนใจก็แจกให้ไปปลูก
สำหรับข้อดีของการปลูกผักในวงคือ ดูแลง่าย ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นแปลงทุกครั้งที่จะปลูกผักรอบใหม่ ใส่ปุ๋ยไม่กระจาย ที่สำคัญสามารถเก็บความเย็นหรือชุ่มน้ำได้ดี ประหยัดน้ำ ทำให้ผักที่ปลูกโตเร็วและสวย ที่สำคัญทำให้สมาชิกในครอบครัวได้มีกิจกรรมร่วมกัน รดน้ำ ใส่ปุ๋ยซึ่งเป็นปุ๋ยหมักที่ตากระสัน ทำเอง ต่อตาตอนกิ่งเอง ถอนหญ้ากำจัดวัชพืช และเก็บผัก เน้นปลูกเพื่อรับประทานในครอบครัว เหลือจึงขาย และผักจะหมุนเวียนปลูกตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ ความรักความอบอุ่นจากแปลงปลูกผักปลอดสารพิษในวงของสองตายาย ลูกๆจึงภาคภูมิใจ และกลายเป็นที่มาของ บ้านที่มีรัก ปลูกรักไว้ทานเอง และไม่หวงหากจะมีใครสนใจนำไปสานต่อ