มัคคุเทศก์ 3 จว.อันดามันยื่นหนังสือรมว.ท่องเที่ยว จัดการไกด์ต่างชาติ แย่งอาชีพคนไทย

เวลา 10 .00 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต ตัวแทนผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ภาคใต้อันดามัน (ภูเก็ต พังงา กระบี่) รวม 50 คน นำโดย นายภูมิภัทร รณกรกุล และนายกฤช เทพบำรุง ผู้ประสานงานมัคคุเทศก์ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา กระบี่ ) ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบอาชีพไกด์ทุกภาษาที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา และจังหวัดกระบี่

ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ประกอบอาชีพทางด้านนี้ กำลังได้รับความเดือดร้อน จากการถูกไกด์เถื่อนเข้ามาแย่งงาน รวมทั้งผู้ประกอบการทางด้านการท่องเที่ยวเอง ก็เลี่ยงที่จะจ้างไกด์คนไทยเข้าทำงาน  
นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ   พ.อ.สมชาย โพนะทอง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายสันติ ป่าหวาย นายทะเบียนสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 2 นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้มารับหนังสือร้องเรียน   นายภูมิภัทร รณกรกุล ผู้ประสานงานมัคคุเทศก์ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา กระบี่ ) กล่าวว่า ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ และแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน และกำลังลุกลามไปในทุกภาษา
ปัจจุบันไกด์เถื่อนเข้ามาทำงานจำนวนมาก บริษัทนำเที่ยวเองก็เลือกที่จะใช้ไกด์เถื่อนแทนมัคคุเทศก์คนไทย ทำให้ผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ต่างได้รับความเดือดร้อนจากชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน ทั้งๆ อาชีพมัคคุเทศก์เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย แต่อาชีพดังกล่าวกำลังถูกต่างชาติเข้ามาแทนที่ทางกลุ่มมัคคุเทศก์ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา กระบี่) จึงเสนอข้อร้องเรียน คือ
1. ขอให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาจับกุมชาวต่างชาติที่เข้ามาสวมรอยทำงานทั้งๆ ที่รู้ว่าอาชีพมัคคุเทศก์เป็นอาชีพสงวนไว้สำหรับคนไทย
2. ในการจับกุมของผู้มีอำนาจหน้าที่ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดเรื่องบัตรต่างสีเพียงเพื่อต้องการสร้างผลงาน แต่กลับละเลยการตรวจสอบชาวต่างชาติที่ทำหน้าที่แทนมัคคุเทศก์อย่างโจ่งแจ้ง และสามารถพบเห็นได้เพียงยืนรอที่สนามบิน มีการเรียกตรวจบัตรมัคคุเทศก์ต่อหน้าชาวต่างชาติ ซึ่งใส่เครื่องแบบของบริษัทต่างชาติโดยไม่เคยพบว่ามีการขอใบอนุญาตทำงานในประเทศ ทำให้มัคคุเทศก์คนไทยรู้สึกไม่เป็นธรรม 
3. เรื่องของนายทุนและเอกชนซึ่งอนุญาต และว่าจ้างชาวต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์แทน ไม่มีแม้กระทั่งมัคคุเทศก์ไทยตามประกบ เรื่องนี้เคยร้องเรียนไปบ่อยครั้ง แต่บริษัทก็ยังคงกระทำผิดซ้ำซากต่อเนื่อง เพียงเพราะต้องการลดต้นทุนจากการจ้างมัคคุเทศก์ ทั้งๆ ที่มัคคุเทศก์ชาวไทยที่มีความชำนาญในภาษาเฉพาะไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน ภาษารัสเซีย ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาอื่นๆ จำนวนมาก ที่ไม่ได้รับการว่าจ้างอย่างไม่เป็นธรรม จึงต้องการให้มีการเข้มงวดในเรื่องนี้

นายภูมิภัทร กล่าวว่า การใช้มัคคุเทศก์ชาวต่างชาติมาทำหน้าที่แทนคนไทยนั้นได้สร้างความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยสามารถพบเห็นได้ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เนื่องจากคนเหล่านี้ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของประวัติศาสตร์ความเป็นมา เช่น กรณีไกด์เถื่อนชาวรัสเซีย จีน และเกาหลี นำนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวที่วัดถ้ำคูหา จ.พังงา โดยให้นักท่องเที่ยวสวมใส่ชุดว่ายน้ำเข้าไปถ่ายรูป ซึ่งการกระทำดังกล่าวคิดว่ามีเจ้าหน้าที่รู้เห็นแต่กลับเพิกเฉย 
หลังจากนั้นกลุ่มมัคคุเทศก์ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา กระบี่) ได้ส่งตัวแทน ประชุมหารือร่วมกับนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง 
นายนิสิต กล่าวว่า ปัญหาที่นำเสนอนั้น เป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน คงไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ 100 % แต่ก็จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นบ้าง เพราะหน่วยงานของรัฐเองก็ต้องการที่จะดูแลและรักษาอาชีพไว้ให้กับคนไทย ได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน 3 ตลาดหลัก คือ จีน รัสเซีย และเกาหลี เพื่อขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายไทย และเน้นย้ำการนำเที่ยวจะต้องใช้มัคคุเทศก์คนไทย
ซึ่งในเร็วๆนี้จะให้ทุกบริษัทมาลงนามข้อตกลงร่วมกันในการที่จะปฏิบัติให้ถูกต้อง หากตรวจพบว่าไม่ปฏิบัติตามก็จะมีบทลงโทษ ด้านผู้เดือดร้อนหลังฟังคำชี้แจง ของผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างพอใจ และพากันแยกย้ายกลับ