เมียสายตร.ยันผัวแจ้งผู้คุมก่อนถูกรุมกระทืบดับคาเรือนจำ

จากกรณีน.ส.รุ่งภัสสรณ์ ดำรงไทยเจริญ อายุ 36 ปี ภรรยาของนายชื่นพันธ์ หรือปุ้ย มาบางครุ อายุ 40 ปี สายแจ้งข่าวให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางชัน ผู้ต้องขังคดียาเสพติดและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต สามีถูกเพื่อนผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษมีนบุรีซ้อมจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา และกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำคดีอย่างโปร่งใส ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้คัดแยกผู้ต้องขังที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดออกมาได้ 33 คน ก่อนส่งไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสี โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาทางเรือนจำไม่ได้รับแจ้งว่าผู้เสียชีวิตเป็นสายของตำรวจ จึงไม่รู้ว่ามีคู่กรณีถูกขังอยู่ในที่เดียวกัน 
คืบหน้าเมื่อเวลา13.00 น. วันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รุ่งภัสสรณ์ ได้ขอให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เจ้าหน้าที่เรือนจำบอกว่าไม่ได้รับแจ้งจากสามีว่ามีคู่กรณีถูกคุมขังเช่นเดียวกันนั้น ตนขอยืนยันตรงนี้เลยว่า ในวันที่ตนเดินทางไปเยี่ยมสามี ทางสามีได้บอกกับตนว่าได้ผู้คุมไปแล้ว ว่าจะมีคนมาลอบทำร้าย ซึ่งคอยเดินวนเวียนดูหน้าสามีถึงประมาณ 30-40 คน และให้รีบหาทางประกันออกไปโดยเร็ว ไม่งั้นจะถูกทำร้ายอย่างแน่นอน โดยก่อนเกิดเหตุทางผู้คุมยังได้ให้สามีตนแยกอาบน้ำเดี่ยวเลย จนกระทั่งมาถูกรุมทำร้ายเสียชีวิตในที่สุด แบบนี้ทางเรือนจำจะไม่รู้ได้อย่างไร ซึ่งตนคิดว่าต้องคนรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้านพ.ต.ท.อิทธิเดช สุนทร รอง ผกก.สส.สน.ทางชัน เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีสื่อมวลชนบางฉบับนำเสนอข่าวไปว่า นายชื่นพันธ์ ไม่ได้เป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางชันนั้น อาจจะเป็นเพราะความคลาดเคลื่อนเข้าใจผิดของสื่อมวลชนเอง โดยตนยืนยันว่านายชื่นพันธ์ ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่แจ้งเบาะแส รวมทั้งหาข่าวยาเสพติดในพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ก็ต้องถือว่าเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งการเป็นสายข่าวไม่จำเป็นต้องออกไปล่อซื้อหรือจับกุมคนร้ายตามที่เข้าใจ ตลอดระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ก็ทราบมาว่านายชื่นพันธ์ ช่วยเหลืองานเจ้าหน้าที่อย่างดี ทั้งฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม หรือหากไม่มีงานให้ทำ ก็ยังสามารถใช้ไปซื้อข้าว ซื้อน้ำได้ โดยพื้นฐานของนายชื่นพันธ์ ไม่ได้เป็นคนเกเร หรือก้าวร้าวกับใคร และไม่น่าจะต้องมาพบกับจุดจบเช่นนี้ขณะที่พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนได้ประสานกับทางผบ.เรือนจำพิเศษมีนบุรีถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาของเจ้าหน้าที่เรือนจำ เพื่อจะนำสรุปผลการสอบสวนส่งมาให้กับเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเมื่อใด อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้ทางผู้กำกับ และรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้ทำสำนวนคดี ทยอยสอบปากคำพยานบุคคลและพยานแวดล้อมที่อยู่ในห้องขังเดียวกัน ซึ่งสอบไปแล้วประมาณ 20 ปาก เพื่อจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป