"ฮู"เตรียมช่วย 15 ชาติแอฟริกา สกัดอีโบลา

อิสซาเบล นัตทัล หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงทางสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกหรือ ดับเบิลยูเอชโอ แถลงเมื่อวานว่า สิ่งสำคัญอันดับแรก ที่ WHO จะทำในขณะนี้ คือ เพิ่มความช่วยเหลือแก่ชาติแอฟริกา 15 ประเทศ โดยเฉพาะไอวอรี โคสต์ และมาลี ที่มีความเสี่ยงที่สุดที่จะเกิดการระบาด โดยจะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปยังประเทศเหล่านี้ช่วงสุดสัปดาห์เพื่อประเมินและให้การช่วยเหลือเตรียมความพร้อมรับมือหากพบผู้ติดเชื้อ
อีโบลาทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 4,500 คนในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน กินี และไนจีเรีย ท่ามกลางความวิตกว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกสัปดาห์ละ 10,000 คนได้ภายในเดือนธ.ค.
และขณะนี้เชื้อไวรัสอีโบลากำลังลุกลามเข้าใกล้ชายแดนของไอวอรี โคสต์ ที่มีประชากรมากถึงเกือบ 20 ล้านคน ซึ่งเท่ากับจำนวนประชากรของ 3 ประเทศที่เป็นแหล่งระบาดหลักรวมกัน และประเทศที่มีพรมแดนติดกับชาติที่เป็นแหล่งระบาด มี 4 ประเทศได้แก่ ไอวอรี โคสต์, กินีบิสเซา, มาลี และเซเนกัล  
นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาติ แสดงความผิดหวังอย่างมากกับนานาชาติที่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยระบุว่าหากวิกฤตินี้เกิดในภูมิภาคอื่น คงได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกว่านี้อย่างมาก และทั่วโลกเพิ่งตื่นตัวเมื่อเชื้ออีโบลาเข้าไปถึงอเมริกาและยุโรป 
ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขของสหภาพยุโรปหรืออียู ที่ประชุมในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ตกลงเห็นพ้องว่าจะร่วมมือกันสนับสนุนการคัดกรองผู้โดยสารที่จะเดินทางออกจาก 3 ประเทศที่เป็นแหล่งระบาด แต่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจำเป็นต้องคัดกรองผู้โดยสารที่จะเข้าสู่ยุโรปหรือไม่ 
ขณะที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐประชุมฉุกเฉินเรื่องอีโบลาเป็นวันที่สอง และเปิดเผยว่าจะแต่งตั้งบุคคลที่จะเป็นผู้ประสานงานรับมือการระบาดอีโบลาในประเทศ และยุทธศาสตร์สำคัญ คือ ต้องช่วยยับยั้งการระบาดในแอฟริกา แต่ย้ำว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการห้ามการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด และตอนนี้ก็มีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินแล้ว นอกจากนี้เขาให้อำนาจกระทรวงกลาโหมส่งทหารสำรอง 3,200 นายไปให้ความช่วยเหลือด้านโลจิสติกส์และวิศวกรรมในประเทศที่มีการระบาด ขณะที่ปัจจุบันมีทหารสหรัฐมากกว่า 500 นายปฏิบัติหน้าที่ในไลบีเรียและเซเนกัล