สหรัฐฯ เผยโจมตีทางอากาศต่อไอเอส จะใช้เวลานานหลายเดือน

เหล่าผู้นำทางทหารของกองทัพสหรัฐแถลงเมื่อวันอังคารว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียที่เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการภารกิจกวาดล้างกลุ่มไอเอสที่ยาวนานและจะยังดำเนินเป็นระยะๆตลอดหลายเดือนนี้ และอาจยากลำบากยิ่งขึ้นเพราะนักรบกลุ่มไอเอสหลบไปซ่อนตัวในย่านชุมชน โดยภารกิจครั้งนี้พุ่งเป้ากำจัดกลุ่มไอเอสและกลุ่มคอราซาน กลุ่มที่มีสายสัมพันธ์กับอัลไกด้าและวางแผนก่อการร้ายในสหรัฐและยุโรป

พลโทวิลเลียม เมย์วิลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐ แถลงว่า กองทัพได้วางแผนไว้เพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือนในพื้นที่โจมตีให้มากที่สุด แต่มีหลักฐานที่ชี้ว่า พวกนักรบไอเอสสลายตัวและเข้าไปปะปนอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยของประชาชน เพื่อหวังหลบซ่อนจากเครื่องบินโจมตีของสหรัฐ

สหรัฐและชาติพันธมิตรในอาหรับใช้ปฏิบัติการโจมตี 3 ระลอกในเมืองรักกาและอเลปโป้ และใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงโดยระลอกแรกเน้นขีปนาวุธโทมาฮอว์ค, ระลอกสองใช้เครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิด B1 และระลอกสามใช้เครื่องบินรบของชาติอาหรับ และเครื่องบินรบ F/A-18 ที่ถูกส่งจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS จอร์จ เอช-ดับเบิลยู บุช ที่ลอยลำอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย การโจมตีไม่ได้จำเพาะเจาะจงไปที่แกนนำกลุ่มไอเอส


ปฏิบัติการครั้งนี้มี 4 ชาติอาหรับ ได้แก่บาห์เรน, จอร์แดน, ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมปฏิบัติการโดยตรง ส่วนกาตาร์มีบทบาทด้านการสนับสนุน

ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐ แถลงเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการเปิดฉากโจมตีในซีเรียว่า ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้โดยลำพังของอเมริกา พร้อมกับกล่าวขอบคุณชาติอาหรับที่เข้าร่วมภารกิจหรือให้การสนับสนุน และบอกด้วยว่าการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายต้องใช้เวลา

กระทรวงต่างประเทศซีเรีย แถลงว่า ได้รับแจ้งล่วงหน้าจากสหรัฐเรื่องการโจมตี และประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย กล่าวสนับสนุนปฏิบัติการของนานาชาติในการกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรง แต่ก็บอกด้วยว่าการกำจัดกลุ่มนี้ ไม่อาจใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียวได้ แต่ต้องใช้วิถีทางการทูตระหว่างประเทศด้วย

ขณะที่กระทรวงต่างประทเศสหรัฐชี้แจงว่า สหรัฐได้แจ้งให้ซีเรียรับทราบว่าอย่าได้ทำอันตรายต่อเครื่องบินของสหรัฐ แต่ไม่ได้มีการขออนุญาต และไม่มีการประสานความร่วมมือกับกองทัพซีเรียแต่อย่างใด

ส่วนประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานี ของอิหร่าน วิจารณ์ว่าปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ขาดความชอบธรรมทางกฎหมาย เพราะไม่ได้รับฉันทามติจากสหประชาชาติหรือการยินยอมจากรัฐบาลซีเรีย ขณะที่ประธานาธิบดี เรเจ๊ป ไตยิบ แอร์ดวน ของตุรกีประกาศว่าอาจเพิ่มการสนับสนุนทางทหารหรือกำลังบำรุง แม้ก่อนหน้านี้ลังเลที่จะประกาศเป็นแนวร่วมกวาดล้างไอเอสนำโดยสหรัฐ