ยอมรื้อแล้ว"โดมชมวิวดอยสุเทพ"

เชียงใหม่- วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ทานกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไหว ยอมรื้อหลังคาโดมชมวิวแล้ว แต่ยังคงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รับรองวีไอพี-อาคันตุกะ เผยปรับรูปทรงหลังคา ลดขนาดเพื่อความพอใจของทุกฝ่าย ด้านกลุ่มคนรักดอยสุเทพ ระบุเป็นการผ่อนคลายความกังวล แต่ยังเกาะติดใกล้ชิด
จากกรณีที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวแสดงความห่วงใยและวิพากษ์วิจารณ์การก่อสร้างอาคารหอชมวิว ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ของวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ส่วนปลายโดมยอดมีลักษณะแหลมเป็นปลายชฎา ซึ่งหวั่นเกรงว่าจะข่มและบดบังพระบรมธาตุดอยสุเทพนั้น ล่าสุดทางวัดยอมรื้อหลังคาและยอดโดมที่เป็นปัญหาถูกวิจารณ์หนัก ทิ้งทั้งหมด เบื้องต้นยังเปิดจะเป็นลานกว้างบนดาดฟ้าติดหลังคาใสให้นักท่องเที่ยวชมวิว โดยจะมีการปรึกษาแบบทำเป็นจุดชมวิวที่ทุกฝ่ายยอมรับต่อไป
นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการประชาสัมพันธ์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ร่วมกับพระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะภาค 7 และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ตรวจรับงานการปรับปรุงหลังคาศาลารายรอบพระบรมธาตุ ซึ่งเป็นไปตามแบบและข้อกำหนดของกรมศิลปากร โดยคณะได้ตรวจสอบอาคารหอชมวิว ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ ที่ปรับปรุงจากห้องสมุดเดิมของวัดให้เป็นสถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อชมวิวเมืองเชียงใหม่ จากเดิมที่แต่ลานชมวิวอีกด้านหนึ่งที่ไม่มีหลังคา ซึ่งเมื่อฝนตกทำให้ไม่สามารถชมทัศนียภาพของเมืองได้
             ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เห็นพ้องกันว่าเพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ จากที่มีความเป็นห่วงเรื่องโดมชฎาที่เป็นปลายยอดของหอชมวิวดังกล่าว ซึ่งชั้นบนสุดเดิมจะตั้งธรรมาสน์ทรงสูงสถาปัตยกรรมล้านนาที่มีอายุกว่า 100 ปี แต่ได้หารือกันแล้วว่าจะไม่มีการนำมาตั้งแล้ว จึงให้ฝ่ายวิศวกรทำการปรับปรุงแบบใหม่โดยเปิดหลังคาชั้นสี่ของอาคารหอสมุดเดิมเป็นลานโล่งเหมือนดาดฟ้า โดยให้มีหลังคาเป็นแผ่นใสเฉพาะบริเวณกึ่งกลางห้องที่สามารถกันฝนได้เท่านั้น ส่วนยอดโดมจะถูกตัดออกทั้งหมด ให้เป็นลานชมวิวอีกจุดหนึ่ง แต่บางส่วนมีหลังคาเหมือนศาลาโปร่งแสง ขณะที่ตั้งแต่ชั้นสามลงไปยังเป็นห้องรับรองวีไอพี สำหรับอาคันตุกะและพระราชอาคันตุกะและพิพิธภัณฑ์ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้เหมือนเดิม
นายวัลลภ กล่าวว่า ความตั้งใจของคณะกรรมการพัฒนาวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ มุ่งที่จะสร้างหอชมวิวให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่ขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุ ได้มีที่บังแดดบังฝน โดยที่ไม่ได้หวังสร้างเพื่อผลประโยชน์ของวัดเพียงอย่างเดียว แต่ยังสร้างเพื่อผลประโยชน์กับคนทั้งชาติเป็นมรดกสำหรับคนรุ่นหลัง ทั้งนี้ เมื่อเกิดความห่วงใยที่ส่วนปลายยอดของหอชมวิวอาจจะไม่เหมาะสม จึงมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นลานโล่งและมีหลังคาใสรอบระเบียงเท่านั้น เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ซึ่งการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขได้เริ่มรื้อตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานแล้ว ทำจนตกดึกก็ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีฝนตกเป็นระยะ ต้องหยุดการทำงานของช่างเพื่อความปลอดภัย คาดว่าน่าจะเสร็จภายในช่วงบ่ายวันนี้ ( 4 มิ.ย. )
กระนั้นก็ตาม จะยังคงเหลือโครงเสา 4 ต้นไว้ก่อน เพื่อจะได้มีการติดหลังคาใสกันฝน เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาชมวิวหลบฝนได้ ซึ่งมีแบบอยู่ในมือแล้ว 3 แบบ รอปรึกษากับทางวิศวกรอีกครั้งและฟังความคิดเห็นจากประชาชน เชื่อว่าหากไม่เป็นรูปทรงโดมหรือทรงชฎาแล้วทุกคนน่าจะยอมรับได้ เพราะประโยชน์ของอาคารยังมีอีกมาก ส่วนเรื่องของกล้องส่องทางไกล ยังมีความหวังว่าหากแบบออกมาทุกคนพอใจแล้วก็ยังสามารถติดตั้งกล้องส่องทางไกลเพื่อชมทัศนีย์ภาพของเมืองเชียงใหม่ทั้งหมดได้ 
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า การรื้อโดมเก่า ได้เกิดเสียงจากกลุ่มช่างและคนงานที่ก่อสร้างโดมชมวิวดังกล่าวในความเสียดาย เนื่องจากก่อสร้างมานานจนเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 80 เหลืออีกเพียงเล็กน้อยก็จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามแบบ และเสียดายสิ่งที่ต้องทิ้งเปล่า จากวัสดุที่เป็นทั้งเหล็กและอลูมิเนียมที่ก่อสร้างและต้องทำลายทิ้ง มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท 
ขณะที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 3 มิ.ย.) ได้มีกลุ่มคนรักดอยสุเทพประมาณ 15 คน นำโดย น.ส.หัทยา อนุสสรราชกิจ และนายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ที่ปรึกษาโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา ร่วมกันหารือในเรื่องความไม่เหมาะสมของการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ หอชมวิว และห้องสมุด ที่มีการก่อสร้างยอดโดมจนมองดูเหมือนบดบังความสง่างามขององค์พระบรมธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
นางสาวหัทยา อนุสสรราชกิจ ตัวแทนกลุ่มคนรักดอยสุเทพ กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มคนรักดอยสุเทพรู้สึกมีความกังวลมาตลอด คือ โดมที่ก่อสร้างบนวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ จะทำให้เกิดทัศนียภาพที่ไม่น่าสบายใจ จึงมีการนัดหมายมาคุยกันว่าทางกลุ่มจะทำอย่างไร เพราะถือว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นใครจะตัดสินทำอะไรน่าจะได้พูดคุยกันก่อน และมีมติร่วมกันกับคนเชียงใหม่
สำหรับเรื่องความห่วงใยต่อการก่อสร้างหอชมวิว ได้ข้อสรุปดังนี้ 1. ทางกลุ่มฯขอขอบคุณคณะกรรมการพัฒนาวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ที่ให้ความสนใจต่อประเด็นความอ่อนไหวทางสังคม วัฒนธรรมศาสนา และความเชื่อ ของคนในท้องถิ่น และได้ทำหนังสือชี้แจงว่าจะมีการปรับอาคารหอชมวิว โดยจะรื้อส่วนยอดโดมออกทั้งหมด 2. ในโอกาสต่อไปหากทางวัดจะดำเนินการสร้างถาวรวัตถุใดๆ ในเขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขตปรก ขอได้โปรดแจ้งต่อสาธารณชนทราบ เพื่อการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และความเหมาะสมทางศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมล้านนา 
3.หากทางวัดได้ดำเนินการรื้อถอนหลังคาในส่วนยอดโดมแล้วเสร็จ โปรดแจ้งให้สาธารณชนทราบ 4. ทางวัดควรจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเป็นศาสนสถาน สิ่งก่อสร้าง หรือการประดับตกแต่งใดๆ ที่ไม่เหมาะสมควรได้รับการปรับปรุง เช่น การใช้ไฟ 5.ควรมีการเพิ่มเติมคณะกรรมการวัด โดยเพิ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมล้านนา และศิลปกรรม เพื่อจะได้ถวายความรู้และถวายคำแนะนำการปรับปรุงวัด ให้เป็นศาสนสถานที่น่าเคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก
"การที่ทางวัดพระธาตุดอยสุเทพฯรื้อถอนในส่วนที่เป็นโดมออก ก็คิดว่าช่วยผ่อนคลายความกังวลไปในระดับหนึ่ง แต่ทางกลุ่มของเราก็คิดว่าจะต้องมีการทำหนังสือยื่นเข้าไปเพื่อให้รู้ว่าเราจะยังติดตามเรื่องนี้อยู่ ตอนนี้อยากจะส่งข่าวไปถึงผู้ที่ดำเนินการว่าทางกลุ่มคนรักเชียงใหม่จะเฝ้าดูต่อไป และขอขอบคุณชาวเชียงใหม่ทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง เพราะเรารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งถ้าคนเชียงใหม่ทุกคนรวมพลังกันก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีๆ ได้"นางสาวหัทยา กล่าว