ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้เดินทางออกจากประเทศก่อนที่หมายจับจะออก ซึ่งก็ได้มีการประสานกับทางการเมียนมาร์และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น โดยเมื่อวานนี้ 31 พฤษภาคม ได้ส่งหัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย เข้าไปประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน ก่อนจะทำการประสานกับทางการเมียนมาร์เพื่อเข้าตรวจค้นจุดที่คาดว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 รายหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่
"จากนั้นได้รับรายงานว่า ทางการเมียนมาร์ได้เข้าตรวจค้นภายในร้านสปาคาราโอเกะ จากการตรวจค้นไม่พบตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย คาดว่าน่าจะหลบหนีไปก่อน หลังจากนี้ทางการเมียนมาร์ก็จะเข้าตรวจค้นในจุดอื่นๆต่อไป ขณะเดียวกันผมก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระวังตามลำน้ำโขง เพื่อจับตาดูเรือเล็กที่ข้ามไปมาตามแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้เข้าใจว่าบอร์ดเดอร์พาสของผู้ต้องหาน่าจะหมดอายุแล้ว ฉะนั้นตัวผู้ต้องหาก็จะอยู่อย่างผิดกฎหมายในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งหากถูกจับตัวได้ก็จะถูกดำเนินคดีในเมียนมาร์ก่อนจะถูกผลักดันส่งกลับประเทศไทยต่อไป" ผบช.สตม. กล่าว
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวด้วยว่า สำหรับกระแสข่าวที่ว่าทางการเมียนมาร์สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ได้แล้วนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนเรื่องการประสานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมียนมาร์สำหรับการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหานั้น ซึ่งตามแนวชายแดนจะมีคณะกรรมการร่วมดูแลอยู่ โดยเท่าที่ผ่านมายังไม่พบปัญหาใดๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี