นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด จำนวน 68 ราย ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ มีข้อสรุปว่า ในจำนวนนั้น 13 ราย ไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน แต่เป็นแค่เหตุการณ์ร่วมเท่านั้น ได้แก่ หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 8 ราย ลิ่มเลือดเป็นจ้ำเลือด 1 ราย ลิ่มเลือดอุดตันในปอด 1 ราย เยื้อหุ้มสมองอักเสบเป็นหนอง 1 ราย เลือดออกในช่องท้อง 1 ราย และเลือดออกในสมองจากความผิดปกติ 1 ราย
ส่วนที่กำลังรอสอบสวนโรค และรอผลชันสูตร 55 ราย ซึ่งเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) มีการพิจารณาเพิ่มเติมไปแล้ว แต่จะมีการสรุปเพิ่มเติมภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับการพิจารณา จะรวบรวมข้อมูลจากโรงพยาบาล หรือพื้นที่ว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง หรือมีลักษณะอาการป่วยอย่างไร ฉีดวัคซีนเมื่อไร โรคประจำตัว และการรักษาเดิมเป็นอย่างไร โดยผลพิจารณาแบ่งออกเป็น 7 ประเภท คือ 1.เกี่ยวข้องกับวัคซีน 2.เกี่ยวข้องกับคุณภาพของวัคซีน 3.เกี่ยวข้องกับการให้บริการฉีดวัคซีน 4.เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ที่ไม่ได้มีสาเหตุทางกายภาพ เช่น อาการชา เอกซเรย์สมองไม่มีสาเหตุ หายได้เองทุกราย
5.เป็นเหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่บังเอิญเกิดร่วมกัน เช่น ก่อนฉีดวัคซีนมีโรคเกิดอยู่แล้ว แต่อธิบายสาเหตุการตายได้ ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน 6.ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน แม้สาเหตุการตายชัดเจน แต่ความเชื่อมโยงกับวัคซีนอาจเป็นโรคใหม่ๆ มีข้อที่ต้องพิสูจน์ต่อ จึงต้องเก็บรวบรวมข้อมูล หากเจอกรณีคล้ายกัน หรือมีข้อสรุปอื่นใดเพิ่มเติมก็นำมาพิสูน์ทราบเพิ่มเติมได้ และ 7.ข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะสรุป
ส่วนการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ หลังได้รับวัคซีนมีทุกประเทศ อย่างสหรัฐ มีประชากร 328 ล้านคน ปกติเสียชีวิตปีละ 3.3 ล้านคน ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.2563-3 พ.ค.2564 มีการฉีดวัคซีนรวม 259 ล้านโดส มีรายงานเสียชีวิตหลังฉีด 4,173 ราย คณะผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าไม่มีสาเหตุจากวัคซีนแต่อย่างใด
"เช่นเดียวกับประเทศไทย ประชากรเกือบ 70 ล้านคน เสียชีวิตประมาณ 5 แสนกว่ารายต่อปี หรือประมาณหลักหมื่นรายต่อเดือน เวลาพิสูจน์สาเหตุ มีหลายกรณีที่เห็นสาเหตุการตายแล้ว ต้องมาเทียบอัตราการเสียชีวิตของสาเหตุนั้น เพื่อจะช่วยสรุป หรือบ่งบอกว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังมีการฉีดวัคซีนหรือไม่ เกี่ยวโยงกันหรือไม่"