28 เมษายน 2564 จากกรณีเรื่องฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังร้านขนมไทยแห่งหนึ่ง ในอ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ทำขนมอาลัวรูปพระเครื่องหลายรูปแบบวางขายในโลกออนไลน์ จนได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก
จากเรื่องในโลกออนไลน์ดังกล่าวกลายมาเป็นประด็นร้อนแรงของวันนี้ทันที เมื่อนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำขนมดังกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และเตรียมทำหนังสือชี้แจงร้านขนมดังกล่าว เพราะรูปพระเครื่องถือเป็นวัตถุมงคล เครื่องสักการะบูชา
อีกมุมหนึ่ง พระมหาไพรวัลย์ วรวัณฺโณ พระชื่อดังแห่ง วัดสร้อยทอง โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นว่า "กินไม่ลง ก็ซื้อไปเก็บไว้บูชาได้นะ อันนี้พูดจริง อย่างน้อยคนทำก็กล้าคิดกล้าทำ ในช่วงโควิดแบบนี้ ถือว่าเข้าใจหาวิธีในการเรียกลูกค้า"
นอกจากนี้ยังยืนยันว่าส่วนตัวไม่รู้สึกว่าอาลัวพระเครื่องเป็นสิ่งที่ผิด ระบุ "ใครรับไม่ได้ อาตมาเคารพสิทธิ์ในความเห็นนะ แต่สำหรับอาตมา อาตมาไม่เห็นว่าเป็นเรื่องลบหลู่อะไร เรามักรับกันไม่ค่อยได้หรอกกับเรื่องลักษณะนี้ แต่เรารับได้ถ้าพระเครื่องเหล่านี้จะถูกปั้มออกมาวางขายเป็นตระกร้าๆ องค์ละ 5 บาท 10 บาท เรารับไม่ได้ที่พระเครื่องจะกลายเป็นขนม แต่เรารับได้ถ้าพระเครื่องจะกลายเป็นสินค้ามีราคา ซึ่งคนจะซื้อขายกันเหมือนเพชรพลอยในราคาหลายล้าน"
และเวลาต่อมา "พระมหาไพรวัลย์" ก็ยังตอบโต้สำนักพุทธฯ ด้วยการโพสต์ข้อความว่า "สำนักงานพุทธกล้าชี้ว่า ขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่สำนักงานพุทธไม่กล้าชี้ว่า ไอ้ไข่อยู่ในวัด และคนพากันไปจุดประทัดเซ่นไหว้เช่นนั้น ไม่เหมาะสม
สำนักงานพุทธกล้าชี้ว่า ขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่สำนักงานพุทธ ไม่กล้าชี้ว่า พระพิฆเนศองค์ใหญ่กว่าหลังคาโบสถ์อยู่ในวัด ไม่เหมาะสม
สำนักงานพุทธกล้าชี้ว่า ขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่สำนักงานพุทธไม่กล้าชี้ว่า การบูชาราหู บูชาพญานาค การทำพิธีดูดวง เจิมหน้าผาก ลงนะหน้าทอง ครอบครู ซึ่งทำกันอยู่ในวัด (ดังๆ) ไม่เหมาะสม"