"หมอทศ" ชี้ม็อบควรมีแกนนำเพื่อคุมสถานการณ์-เตือนจนท.หยุดใช้ความรุนแรง

นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บว่า ในวันดังกล่าวมีการใช้ความรุนแรงหลายครั้ง แม้กระทั่งในระหว่างที่ประชาชนทยอยกลับก็มีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนพยายามทำให้การชุมนุมยุติหลายครั้ง เพราะอยากให้การชุมนุมเป็นไปโดยสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง จึงฝากเตือนสติไปยังตำรวจ ว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงในการจัดการกับประชาชน เพราะประชาชนไปอย่างสันติ หากเจอใครที่พยายามใช้ความรุนแรง ตำรวจที่มีกำลังสามารถเข้ามาควบคุมตัวไปดำเนินคดีได้อยู่แล้ว จึงคิดว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง ซึ่งตนเองรวมถึงผู้ชุมนุมไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทุกกรณีทั้งนี้ เตรียมให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมมาหารือกับฝ่ายกฎหมายว่าจะสามารถดำเนินคดีได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน ขอแสดงความเสียใจกับตำรวจที่เสียชีวิต พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้สถานพยาบาล แต่เหตุใดการช่วยเหลือถึงล่าช้า

ส่วนการชุมนุมที่ไม่มีแกนนำนั้น มองว่า ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมมีอุดมการณ์มีความเห็นที่ร่วมกันมากกว่า แต่แกนนำเหมือนเป็นผู้ประสานงาน ควบคุมการดำเนินการชุมนุมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่พอไม่มีแกนนำอาจทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะไม่มีใครควบคุมผู้ชุมนุมได้ ซึ่งตนเองได้พยายามเข้าไปเจรจาทั้งฝ่ายตำรวจ และผู้ชุมนุมยุติใช้ความรุนแรง หรือเลี่ยงการปะทะ พร้อมมองว่า ในการชุมนุมหลังจากนี้ควรมีแกนนำ เพื่อทำหน้าที่ควบคุมหรือเป็นแนวเจรจาทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและฝ่ายตำรวจ และควรมีแนวทางการชุมนุมที่ชัดเจน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจควรเข้ามาช่วยดูแลความเรียบร้อย ป้องกันมือที่ 3 ที่อาจเข้ามาก่อความวุ่นวายด้วย และไม่ควรเข้าใจว่าประชาชนคือคู่ขัดแย้ง
นายแพทย์ทศพร ยังเห็นใจสื่อมวลชนที่ไปทำข่าว เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้สามารถทำความเข้าใจกันได้ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนเปิดใจให้กว้าง และให้เกียรติสื่อในการทำข่าว ขณะที่สื่อเองก็ต้องพยายามนำเสนอข่าวให้ครบทุกด้าน